บรัสเซลส์--21 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ได้ดำรงตำแหน่งประธานสภายุโรปมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2557 ประธานคนแรกของยุโรปรายนี้ครุ่นคิดถึงช่วงเวลา 5 ปีที่แสนจะปั่นป่วน และมองไปยังอนาคตของยุโรป “เมื่อผมเริ่มทำงาน ผมไม่รู้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายมหาศาลในรูปแบบใด”
“โดยพื้นฐานแล้ว แนวทางการทำงานของผมไม่แตกต่างไปจากผู้นำประเทศ รัฐ หรือแม้กระทั่งผู้บริหารบริษัท ผมยังต้องรับฟัง ทำให้ผู้คนเชื่อมั่น และเสนอทางแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์” นี่คือถ้อยคำของเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย อดีตประธานคณะกรรมาธิการประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลยุโรป (พ.ศ.2552-2557) “เมื่อใดที่ตำแหน่งหน้าที่เรียกร้องจากคุณมากกว่า เดิมพันจากข้อเรียกร้องนั้นค่อนข้างจะสูงเสมอ การลงมติในกลุ่มอียูจะต้องเป็นมติเอกฉันท์ร่วมกับประเทศสมาชิก 28 ประเทศเท่านั้น ในฐานะประธาน คุณจึงต้องสร้างความมั่นใจว่า ประเทศสมาชิกทั้งหมดสามารถเห็นพ้องร่วมกันได้”
ช่วงเวลาอันยากลำบาก
ฟาน รอมปุย ได้นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาสำคัญ 2 ช่วงที่เขาหวั่นเกรงว่า ยูโรโซนจะพบกับจุดจบแห่งหายนะ “ยุโรปอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างรุนแรงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2554 วิกฤตทางการเมืองปะทุขึ้นในกรีซ และปัญหามากมายในอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ขนาดใหญ่ลำดับ 3 ในยุโรป สถานการณ์เหล่านี้ล้วนทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เหตุดังกล่าวนำไปสู่การลาออกของนายกรัฐมนตรีกรีซและนายกรัฐมนตรีแบร์ลุสโคนีของอิตาลี ช่วงเวลาดังกล่าวนับเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยาก อียูตกอยู่ภายใต้การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ไม่ใช่แค่จากภายในเท่านั้น แต่ยังมาจากภายนอกทั่วโลก เดิมพันครั้งนั้นมีความเสี่ยงสูงเพราะหากยูโรโซนล่มสลาย เศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน กล่าวได้ว่า สถานการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ต้องยับยั้งไว้”
งานที่ยังรอการสะสาง
ฟาน รอมปุย ไม่ได้มีคำแนะนำมากมายนักสำหรับ โดนัลด์ ทัสค์ ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากตนเองชาวโปแลนด์ “ผมไม่ใช่คนประเภทที่ค้นพบสิ่งใหม่ๆทั้งหมดเกี่ยวกับยุโรปในทันทีทันใด ในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานของผม เราพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ผมมีความมั่นใจว่าผู้สืบทอดของผมจะทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และจะทำด้วยความรับผิดชอบ เรากำลังรับมือกับอัตราการว่างงานในระดับสูง ความสามารถในการแข่งขันระดับต่ำ การฟื้นตัวทางการเงินที่ยากลำบาก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีดตัวขึ้นอย่างช้าๆ เราต้องการการเติบโตและการจ้างงาน สถานการณ์เหล่านี้ต้องการผลลัพธ์ และนั่นเป็นเรื่องที่ท้าทาย หากเราไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องดังกล่าว เสถียรภาพทางการเมืองของยุโรปก็จะตกอยู่ในอันตราย”
แหล่งข่าว: Assemblee Speakers Bureau