Henley & Partners ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งการจัดทำดัชนี Visa Restrictions Index

ข่าวต่างประเทศ Friday October 2, 2015 12:34 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

ลอนดอน--2 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ Henley & Partners เปิดตัวดัชนีข้อจำกัดด้านวีซ่า (Visa Restrictions Index) ประจำปี 2558 พร้อมข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นตลอดทศวรรษที่ผ่านมา แม้ว่า ปัจจุบันโลกจะมีการเชื่อมโยงกันอย่างกว้างขวาง แต่อิสระในการเดินทางของแต่ละประเทศนั้นยังคงมีความแตกต่างกันสูง ข้อจำกัดด้านวีซ่าถือเป็นปัจจัยกำหนดและจำกัดโอกาสของนักเดินทางในการเดินทางข้ามพรมแดน อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของแต่ละประเทศที่มีร่วมกับประเทศอื่นๆ ข้อจำกัดดังกล่าวพิจารณาจากความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศ ข้อตกลงด้านวีซ่าระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแนวโน้มความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ และความเสี่ยงที่จะเกิดการฝ่าฝืนข้อตกลงด้านวีซ่าและกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง Henley & Partners ผู้นำระดับโลกด้านการวางแผนพำนักอาศัยและการขอสัญชาติ ได้มีการเผยแพร่ดัชนี Visa Restrictions Index ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และสำหรับปีนี้ได้เปิดตัวดัชนีล่าสุดประจำปี 2558 พร้อมข้อมูลประกอบที่ได้รวบรวมมาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมอบข้อมูลเจาะลึกอย่างที่ไม่เคยปรากฎให้เห็นที่ใดมาก่อนในเรื่องของความก้าวหน้าด้านนโยบายวีซ่าในช่วงเวลาดังกล่าว ปี 2558 การเปรียบเทียบดัชนีปี 2558 กับปีก่อนหน้าแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่น่าสนใจมากมาย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เป็นตัวอย่างของพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด โดยเป็นประเทศที่มีอันดับเพิ่มขึ้นมากที่สุด ด้วยรายชื่อประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 37 ประเทศ ไต่ขึ้นจากอันดับที่ 55 มาเป็นอันดับที่ 40 ในปีนี้ อีกทั้งเป็นประเทศที่ไต่อันดับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีของดัชนี Visa Restrictions Index และเป็น 1 ในเพียง 22 ประเทศที่มีอันดับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คุณมาร์โก กันเทนเบียน หุ้นส่วนผู้จัดการของ Henley & Partners ประจำดูไบ กล่าวว่า "มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกอย่างยุโรป สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ยังคงขึ้นแท่น 10 อันดับแรกตามคาด อย่างไรก็ตาม UAE สมควรได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากความก้าวหน้าในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากอันดับที่ดีขึ้นในดัชนีของ Henley & Partners" ส่วนสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างประเทศมอลตา ซึ่งได้ดำเนินโครงการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ (citizenship-by-investment) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกด้วยเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านยูโรนับตั้งแต่ที่ได้ก่อตั้งโครงการขึ้นเมื่อราว 18 เดือนที่ผ่านมานั้น สามารถไต่อันดับขึ้นจนกลายเป็นประเทศที่มีหนังสือเดินทางดีที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก เยอรมนีและสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ครองอันดับหนึ่งในดัชนี ด้วยรายชื่อประเทศที่สามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าทั้งสิ้น 173 ประเทศจากทั้งหมด 218 ประเทศ ขณะที่ฟินแลนด์ สวีเดน และสหรัฐ ตกไปอยู่ในอันดับสอง ส่วนประเทศที่มีหนังสือเดินทางติดอันดับท้ายสุดของโลกได้แก่ อัฟกานิสถาน อิรัก โซมาเลีย และปากีสถาน 10 ปีที่ผ่านมา: 2549-2558 เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มที่เกิดขึ้นตลอดทศวรรษที่ผ่านมาแล้วก็พบรูปแบบอื่นๆที่น่าสนใจเช่นกัน ประเทศในยุโรปนั้นมีอันดับที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ โดยเบลเยี่ยม ฝรั่งเศส อิตาลี ลักเซมเบิร์ก สเปน และสวีเดน ยังคงครองอันดับเดียวกันกับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา สำหรับประเทศที่ติด '10 อันดับแรก' นั้นแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีประเทศที่ติดอันดับนี้ 30 ประเทศด้วยกันในปี 2558 เมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้ที่มีทั้งสิ้น 26 ประเทศ โดยลิกเตนสไตน์มีอันดับลดลง ขณะที่สาธารณรัฐเช็ก ฟินแลนด์ ฮังการี มอลตา สโลวาเกีย และเกาหลีใต้ติด 10 อันดับแรกทั้งหมด ไต้หวัน อัลเบเนีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บอสเนีย และเซอร์เบีย ได้ไต่อันดับขึ้นกว่า 20 อันดับในดัชนีตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนประเทศที่มีอันดับร่วงลงหนักที่สุดได้แก่ กินี (-35) ไลบีเรีย (-36) เซียร์ราลีโอน (-38) และโบลิเวีย (-40) การลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาตินั้นเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของประเทศที่ดำเนินโครงการลงทุนเพื่อพำนักอาศัยและขอสัญชาติ ประเทศที่มีโครงการในลักษณะดังกล่าวยังคงมีพัฒนาการที่แข็งแกร่ง และล้วนติด 40 อันดับแรกของดัชนี โดยเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างยิ่งที่ประเทศมอลตาได้ขึ้นแท่น 10 อันดับแรก หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวโครงการ Malta Individual Investor Programme ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นโครงการการลงทุนเพื่อขอสัญชาติยอดเยี่ยมของโลกในรายงาน Global Residence and Citizenship Programs 2015 ส่วนประเทศโปรตุเกสซึ่ งดำเนินโครงการที่ได้รับการยกย่องให้เป็นโครงการลงทุนเพื่อขอพำนักอาศัยยอดเยี่ยมนั้น ครองอันดับ 4 ในดัชนีประจำปีนี้ ขณะที่ประเทศแถวหน้าในแถบแคริบเบียนอย่างแอนติกาและบาร์บูดายังคงไต่อันดับขึ้นในปีนี้ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของประเทศเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการเสนอช่องทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าแก่ประเทศที่ดำเนินโครงการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน อย่างไรก็ดีโครงการในลักษณะนี้ควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากภาพลักษณ์ของหนังสือเดินทางของประเทศนั้นๆ รวมถึงความสัมพันธ์ที่มีร่วมกับประเทศอื่นๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้พลเมืองใหม่ นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวยังได้มีการเปิดตัว Investment Migration Council สมาคมระดับโลกด้านการลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญชาติและการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจและการยอมรับแนวทางที่มีความสำคัญเช่นนี้ในกระแสโลกาภิวัตน์ ข้อมูลเจาะลึกและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ยังคงช่วยผลักดันให้ Henley & Partners เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยสนับสนุนรัฐบาลทั้งสองฝั่งในแง่ของการสร้างและบริหารจัดการโครงการเพื่อการย้ายถิ่นฐานอันดับต้นๆของโลก รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการยกระดับชีวิตของตนด้วยการขอพำนักอาศัยหรือขอสัญชาติในต่างประเทศ ความก้าวหน้าของอิสระเสรีในการเดินทางทั่วโลกนั้น ยังคงมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อไปสำหรับพลเมืองทุกประเทศ สามารถดาวน์โหลดข้อมูล Henley & Partners Visa Restrictions Index 2015 Factsheet ซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอียดการให้คะแนนและการจัดอันดับ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการจัดทำดัชนีได้ที่ henleyglobal.com/hvri สามารถรับชมบทสรุปผลการจัดอันดับได้ที่ส่วนหมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ สามารถรับชมรูปภาพที่เกี่ยวข้องได้ที่: http://www.henleyglobal.com/press-images หมายเหตุถึงบรรณาธิการ หมายเหตุเกี่ยวกับดัชนี Visa Restrictions Index 2015 ของ Henley & Partners นับตั้งแต่ปี 2549 ดัชนี Visa Restrictions Index ได้จัดทำขึ้นมาร่วมกับสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) ซึ่งเป็นผู้รักษาฐานข้อมูลการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในการประมวลผลดัชนีนั้น วิธีการจัดอันดับระดับโลกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Henley & Partners จะถูกนำมาใช้กับข้อมูลที่จัดหาจากฐานข้อมูลหนังสือเดินทางและวีซ่าที่เป็นเอกสิทธิ์ของ IATA ข้อมูลเด่นๆในปี 2558 เมื่อเทียบกับปี 2557 - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีอันดับเพิ่มขึ้นสูงที่สุด โดยขยับขึ้น 15 ตำแหน่งและมีคะแนนเพิ่มขึ้น 37 คะแนน การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากดังกล่าวเนื่องมาจากการทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) ในเรื่องการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องทำวีซ่าใน 36 ประเทศซึ่งรวมถึง 26 ประเทศในเขต Schengen ที่มีผลอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในฐานะประเทศอาหรับประเทศแรกที่ได้รับยกเว้นการขอวีซ่าของยุโรป พลเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวใน 113 ประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ส่งผลให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศที่มีพาสปอร์ตที่ทรงอำนาจมากที่สุดในภูมิภาค MENA - ประเทศ 22 ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับดีขึ้น ได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล สาธารณรัฐเช็ก โดมินิกา เอสโทเนีย เกรนาดา ฮังการี ไอซ์แลนด์ ลัตเวีย ลิธัวเนีย มอลตา นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ ซามัว ซานมาริโน สโลวาเกีย สโลวาเนีย เซนต์ลูเซีย เซนต์วินเซนต์ และเกรนาดีนส์ ทรินิแดดและโทบาโก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และวานูอาตู - มีเพียง 2 ประเทศที่ยังรั้งตำแหน่งสูงสุดไว้อย่างเหนียวแน่น ได้แก่ เยอรมนีและสหราชอาณาจักร (ฟินแลนด์ สวีเดน และสหรัฐต่างก็ร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่สอง) - เซียร์ราลีโอน ปรับตัวลดลงมากที่สุด โดยลดลง 24 อันดับ - กินี และ ไลบีเรีย มีอันดับลดลงสูงที่สุดเป็นอันดับสอง ซึ่งลดลง 21 อันดับ ในขณะที่ซีเรียลดลง 16 อันดับ - อัฟกานิสถาน เอริเทีย เอธิโอเปีย อิรัก โคโซโว ไนจีเรีย โซมาเลีย และซูดานใต้ต่างก็ลดลงไป 15 อันดับ - ประเทศ 4 ประเทศที่ติดอันดับพาสปอร์ตที่แย่ที่สุดในโลกยังคงเป็นอัฟกานิสถาน อิรัก โซมาเลีย และปากีสถาน ข้อมูลเด่นๆในปี 2558 เมื่อเทียบกับปี 2549 - ประเทศและเขตแดนที่มีอันดับเพิ่มขึ้นสูงที่สุด คือ อัลบาเนีย บอสเนีย ไต้หวัน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งต่างก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 20 อันดับ - 2 ประเทศที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในด้านการให้สัญชาติผ่านทางโปรแกรมการลงทุนต่างอยู่ในกลุ่มภูมิภาคคาริบเบียน ได้แก่ แอนติกาและบาร์บูดา และเซนต์คิตส์และเนวิส ซึ่งต่างก็เพิ่มขึ้น 13 อันดับ - 9 ประเทศที่มีอันดับทรงตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ เบลเยียม บราซิล ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น ลักเซมเบิร์ก มาเลเซีย สเปน สวีเดน - ประเทศที่มีอันดับลดลงสูงที่สุดได้แก่ กินี (-35) ไลบีเรีย (-36) เซียร์ราลีโอน (-38) และโบลิเวีย (-40) - 10 อันดับแรกเกือบจะเหมือนเดิม โดยมี 30 ประเทศได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 10 อันดับแรกในปี 2558 เมื่อเทียบกับ 26 ประเทศเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา - ลิกเตนสไตน์หลุดจาก 10 อันดับแรก ขณะที่สาธารณรัฐเช็ก ฟินแลนด์ ฮังการี มอลตา สโลวาเกีย และเกาหลีใต้ต่างก็ขยับขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรก ประเทศที่มีโครงการมอบที่พำนักอาศัยและสัญชาติจากโครงการลงทุนที่ดีที่สุด - บรรดาประเทศที่มีโครงการมอบที่พำนักอาศัยและสัญชาติจากการนำเงินมาลงทุนที่ดีที่สุดในโลกยังคงมีอันดับที่แข็งแกร่ง: - โปรตุเกสรั้งอันดับที่ 4 ที่สามารถเดินทางเข้าถึง 170 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า - มอลตาปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 7 โดยสามารถเดินทางไปยัง 167 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า - ไซปรัสอยู่ในที่อันดับที่ 14 สามารถเดินทางเข้า 158 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า - แอนติกาและบาบิวดารั้งอันดับที่ 26 สามารถเดินทางเข้า 133 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า - ประเทศอื่นๆทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมดังกล่าวต่างก็อยู่ใน 40 อันดับแรก ซึ่งได้แก่ - ออสเตรีย เบลเยียม แคนาดา ฮ่องกง โมนาโค สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐ เกี่ยวกับ Henley & Partners Henley & Partners เป็นผู้นำระดับโลกด้านการวางแผนพำนักอาศัยและการขอสัญชาติ โดยในแต่ละปี บุคคลและครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย รวมถึงที่ปรึกษาของพวกเขาจำนวนหลายร้อยราย ต่างไว้วางใจในความชำนาญและประสบการณ์ของบริษัท แนวคิดเรื่องการวางแผนพำนักอาศัยและการขอสัญชาติถูกคิดค้นขึ้นโดย Henley & Partners เมื่อช่วงทศวรรษ 1990 กระแสโลกาภิวัตน์ที่ขยายตัวได้ทำให้การพำนักอาศัยและการขอสัญชาติกลายเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของบรรดาผู้ประกอบการและนักลงทุนระหว่างประเทศจำนวนมากที่ร่วมงานกับ Henley & Partners นอกจากนี้ บริษัทยัง ให้คำปรึกษาแก่รัฐบาล ของประเทศต่างๆ และมีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษาและวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ ริเริ่มและดำเนินโครงการพำนักอาศัยและขอสัญชาติที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยสามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้มากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจนถึงปัจจุบัน http://www.henleyglobal.com รูปภาพสำหรับสื่อมวลชน รับชมและดาวน์โหลดภาพความคมชัดสูงที่เกี่ยวข้องกับ Henley & Partners ซึ่งรวมถึงโฆษกและภาพเกี่ยวกับ HVRI กรุณาเยี่ยมชม: henleyglobal.com/press-images สื่อมวลชน กรุณาติดต่อ: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: Henley & Partners Donoven Gloyผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์กลุ่มบริษัท อีเมล: donoven.gloy@henleyglobal.com โทร: +27-21-850-0524 มือถือ: +27-72-657-1927 แหล่งข่าว: Henley & Partners
แท็ก ข้อมูล   ICT  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ