กรุงเทพโพลล์: “ความหวังของประชาชนกับการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเมืองไทย”

ข่าวผลสำรวจ Monday October 10, 2016 10:18 —กรุงเทพโพลล์

ประชาชน 71.3% ชี้ควรปฏิรูปการเมือง พรรคการเมือง นักการเมือง อย่างจริงจังก่อนการเลือกตั้งปีหน้า 74.1%อยากให้มีการเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง และ67.8% อยากเห็นการเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระ 62.7% หวังอยากเห็นนักการเมืองหน้าใหม่ๆ พรรคการเมืองใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนในการเลือกตั้งปีหน้า 60.3% พร้อมเชื่อมั่น คสช. ปฏิรูปการเมือง ข้าราชการ องค์กรอิสระ ใหม่ทั้งหมด จะพาประเทศพัฒนาดีขึ้นแน่นอน

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ความหวังของประชาชนกับการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเมืองไทย” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,221 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 71.3 คิดว่าควรมีการปฏิรูปการเมือง พรรคการเมือง นักการเมือง อย่าง จริงจังก่อนการเลือกตั้งปีหน้า ขณะที่ร้อยละ 22.6 คิดว่าดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร และร้อยละ 6.1 ไม่แน่ใจ

ทั้งนี้เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง (โดยทุกพรรคจะต้องเหมือนนับหนึ่งใหม่ เช่น จดทะเบียนพรรค สมาชิกพรรค หัวหน้าพรรค เพื่อไม่ให้เกิด ความได้เปรียบเสียเปรียบก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า) ส่วนใหญ่ร้อยละ 74.1 เห็นด้วย เพราะจะได้มีทางเลือกมากขึ้น เปิดโอกาสให้มีพรรคการเมือง นักการเมืองใหม่มากขึ้น ขณะที่ ร้อยละ 20.2 ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้ต้องยุบพรรคใหญ่ และใช้เวลานานในการตั้งพรรคใหม่ เซ็ตพรรคใหม่ ส่วนร้อยละ 5.7 ไม่แน่ใจ

เมื่อถามต่อว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการจำกัดค่าใช้จ่ายและการจำกัดการใช้สื่อในการหาเสียงของ ส.ส. ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.5 เห็นด้วย เพราะจะทำให้นักการเมืองมี การหาเสียงได้เท่าเทียมกัน ขณะที่ร้อยละ 17.3 ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้การหาเสียงไม่คึกคัก ขาดสีสัน ส่วนที่เหลือร้อยละ 4.2 ไม่แน่ใจ

สำหรับสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด หลังจากการปฏิรูประบบการเมืองไทยคือ อยากเห็นนักการเมืองหน้าใหม่ๆ พรรคการเมืองใหม่ นโยบาย หาเสียงใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน (ร้อยละ 62.7) รองลงมาอยากให้การเมืองไทยมีการแข่งขันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ซื้อเสียง (ร้อยละ 57.4) และอยากให้ นักการเมืองลดการแสวงหาผลประโยชน์ภายหลังการเลือกตั้ง (ร้อยละ 48.2)

นอกจากนี้เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระทั้งหมด โดยเริ่มจาก กกต. เป็นที่แรกพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 67.8 เห็นด้วยเพราะควรเริ่มต้นใหม่ ทั้งหมด ก่อนเลือกตั้งปีหน้า ขณะที่ร้อยละ 25.2 ไม่เห็นด้วยเพราะระบบเดิมดีอยู่แล้ว ที่เหลือร้อยละ 7.0 ไม่แน่ใจ

สุดท้ายเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล คสช. ในการปฏิรูประบบการเมือง ข้าราชการ องค์กรอิสระ ใหม่ทั้งหมด จะทำให้ประเทศไทยมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี ขึ้นได้กว่าอดีตที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 60.3 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 33.1 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ส่วนร้อยละ 6.6 ไม่แน่ใจ

โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้

1. ข้อคำถาม “คิดว่าการเมือง พรรคการเมือง นักการเมือง ของประเทศไทยในปัจจุบันเป็นอย่างไร ”
คิดว่าควรมีการปฏิรูปอย่างจริงจังก่อนการเลือกตั้งปีหน้า                                              ร้อยละ          71.3
คิดว่าดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร                                                         ร้อยละ          22.6
ไม่แน่ใจ                                                                                ร้อยละ           6.1

2. ข้อคำถาม “เห็นด้วยหรือไม่กับการเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง (โดยทุกพรรคจะต้องเหมือนนับหนึ่งใหม่ เช่น จดทะเบียนพรรค สมาชิกพรรค หัวหน้าพรรค เพื่อไม่ให้เกิดความได้
เปรียบเสียเปรียบก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า)”
เห็นด้วย  เพราะจะได้มีทางเลือกมากขึ้น เปิดโอกาสให้มีพรรคการเมือง นักการเมืองใหม่มากขึ้น               ร้อยละ          74.1
ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้ต้องยุบพรรคใหญ่ และใช้เวลานานในการตั้งพรรคใหม่ เซ็ตพรรคใหม่                ร้อยละ          20.2
ไม่แน่ใจ                                                                                ร้อยละ           5.7

3. ข้อคำถาม “เห็นด้วยหรือไม่กับการจำกัดค่าใช้จ่ายและการจำกัดการใช้สื่อในการหาเสียงของ ส.ส.”
เห็นด้วย เพราะจะทำให้นักการเมืองมีการหาเสียงได้เท่าเทียมกัน                                      ร้อยละ          78.5
ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้การหาเสียงไม่คึกคัก ขาดสีสัน                                            ร้อยละ          17.3
ไม่แน่ใจ                                                                                ร้อยละ           4.2

4. ข้อคำถาม “ท่านคาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร หลังจากการปฏิรูประบบการเมืองไทย”(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
อยากเห็นนักการเมืองหน้าใหม่ๆ พรรคการเมืองใหม่ นโยบายหาเสียงใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน        ร้อยละ          62.7
อยากให้การเมืองไทยมีการแข่งขันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ซื้อเสียง                                     ร้อยละ          57.4
อยากให้นักการเมืองลดการแสวงหาผลประโยชน์ภายหลังการเลือกตั้ง                                    ร้อยละ          48.2
อยากให้มีการสร้างโอกาสและความเท่าเทียมกันของนักการเมือง                                       ร้อยละ          35.6
อยากให้ลดบทบาทของการสร้างระบบทุนนิยม                                                      ร้อยละ          29.0

5. ข้อคำถาม “เห็นด้วยหรือไม่กับการเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระทั้งหมด โดยเริ่มจาก กกต. เป็นที่แรก”
เห็นด้วยเพราะควรเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ก่อนเลือกตั้งปีหน้า                                             ร้อยละ          67.8
ไม่เห็นด้วยเพราะระบบเดิมดีอยู่แล้ว                                                            ร้อยละ          25.2
ไม่แน่ใจ                                                                                ร้อยละ           7.0

6. ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล คสช. ในการปฏิรูประบบการเมือง ข้าราชการ  องค์กรอิสระ ใหม่ทั้งหมด จะทำให้ประเทศไทยมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้กว่าอดีตที่ผ่านมา
เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด                                                                ร้อยละ          60.3
(โดยแบ่งเป็นค่อนข้างมากร้อยละ 45.2 และมากที่สุดร้อยละ 15.1)
เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด                                                                ร้อยละ          33.1
(โดยแบ่งเป็นค่อนข้างน้อยร้อยละ 21.3 และน้อยที่สุดร้อยละ 11.8)
ไม่แน่ใจ                                                                                ร้อยละ           6.6

รายละเอียดการสำรวจ

วัตถุประสงค์การสำรวจ

1) เพื่อสะท้อนความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูปการเมือง การเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง การเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระ

2) เพื่อสะท้อนความหวังของประชาชนหลังปฏิรูประบบการเมือง

3) เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล คสช. ในการปฏิรูประบบการเมือง ข้าราชการ องค์กรอิสระใหม่ทั้งหมด จะทำให้ประเทศไทยมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ กว่าอดีตที่ผ่านมา

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการ สุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถาม แบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

          ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล           :  4 – 6 ตุลาคม 2559

          วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ               :  8 ตุลาคม 2559

ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่าง

จำนวน ร้อยละ เพศ

          ชาย                               618      50.6
          หญิง                               603      49.4
          รวม                             1,221       100
อายุ
          18 ปี - 30 ปี                       203      16.6
          31 ปี - 40 ปี                       264      21.6
          41 ปี - 50 ปี                       316      25.9
          51 ปี - 60 ปี                       272      22.3
          61 ปี ขึ้นไป                         166      13.6
          รวม                             1,221       100
การศึกษา
          ต่ำกว่าปริญญาตรี                      804      65.9
          ปริญญาตรี                           335      27.4
          สูงกว่าปริญญาตรี                       82       6.7
          รวม                             1,221       100
อาชีพ
          ลูกจ้างรัฐบาล                        140      11.5
          ลูกจ้างเอกชน                        281        23
          ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร        509      41.7
          เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง                61         5
          พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ            167      13.7
          นักเรียน/ นักศึกษา                     48       3.9
          ว่างงาน/ รวมกลุ่ม                     15       1.2
          รวม                             1,221       100

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ