ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ....

ข่าวการเมือง Tuesday October 3, 2017 14:47 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นกระทรวงพลังงาน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานอัยการสูงสุด และฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... เป็นการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และเป็นการขยายขอบเขตการบังคับใช้พระราชบัญญัติไปถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะ เขตไหล่ทวีป และทะเลหลวงที่ประเทศไทยมีสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมตราบเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศหรือความตกลงที่ทำกับต่างประเทศ และกำหนดให้มีการขึ้นทะเบียนบุคคลเพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชนในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้แก่ น้ำ อากาศ เสียงและความสั่นสะเทือน ดิน ตะกอนดิน และสิ่งแวดล้อมในเรื่องอื่น ๆ เพื่อเป็นเกณฑ์ทั่วไปสำหรับคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงแหล่งที่มาของเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและต้องมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียให้สอดคล้องกับมาตรา 58 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเพิ่มเติมให้เจ้าของโครงการหรือกิจการต้องชำระค่าธรรมเนียมการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยให้นำส่งเข้ากองทุนกำหนดให้มีการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด กำหนดค่าธรรมเนียมในการปล่อยมลพิษและการกำหนดอัตราค่าบริการบำบัดหรือจำกัดน้ำเสีย ของเสีย หรือมลพิษอื่น การวางหลักประกันความเสี่ยงหรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และมีการปรับปรุงบทกำหนดโทษโดยเพิ่มทบกำหนดโทษให้สอดคล้องกับหลักการที่มีการเพิ่มเติมขึ้นใหม่ ซึ่ง ทส. ได้นำข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามคำสั่งรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) แล้ว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 ตุลาคม 2560--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ