เรื่องเล่าระหว่างทาง: กระแสโลกออนไลน์มาแรง...เกาะติดเทรนด์ Social Media สุดฮิต ในเมียนมา

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 30, 2017 14:02 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

ปัจจุบันบรรยากาศและวิถีการใช้ชีวิตของชาวเมียนมาที่พัฒนาสู่สังคมเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมและแพร่หลายอย่างรวดเร็วจนนำไปสู่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จึงอยากนำประเด็นดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟังให้ผู้อ่านได้เกาะติดเทรนด์ฮิตสังคมออนไลน์ในเมียนมาไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดกลยุทธ์การรุกตลาดเมียนมาให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของชาวเมียนมายุคใหม่อย่างแท้จริง

ประชากรออนไลน์ในเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

หลังจากเปิดเสรีให้นักลงทุนต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมในปี 2556 จากเดิมที่ผูกขาดโดยบริษัท Myanma Posts and Telecommunications (MPT) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มายาวนานกว่า 40 ปี การเข้ามาของผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของโลกอย่างบริษัท Telenor จากนอร์เวย์ และบริษัท Ooredoo จากกาตาร์ ไม่เพียงเร่งจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือในเมียนมาให้ขยายตัวสูงแตะระดับ 50 ล้านคนในปี 2559 หรือราว 90% ของจำนวนประชากรทั้งหมด แต่ยังได้นำพาชาวเมียนมาให้ก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว สะท้อนจากผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในเมียนมาเพิ่มขึ้นจาก 100,000 คนในปี 2553 เป็น 17 ล้านคนในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าสัดส่วนการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตต่อจำนวนประชากรของเมียนมาเกือบต่ำที่สุดในอาเซียน แต่อัตราการขยายตัวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเมียนมาที่เพิ่มขึ้นกว่า 170 เท่าภายใน 6 ปี ชี้ให้เห็นว่าตลาดออนไลน์ในเมียนมามีโอกาสเติบโตได้อีกมากทีเดียว

ปัจจัยด้านราคา...จุดเริ่มต้นกระแสความนิยมสังคมออนไลน์

ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นยอดการใช้โทรศัพท์มือถือของชาวเมียนมาให้พุ่งสูงขึ้นในระยะเวลาอันสั้น น่าจะมาจากราคาซิมการ์ด ซึ่งเคยสูงถึง 7,000 บาทในช่วงปี 2556 แต่ในปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 60 บาท อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้าประกอบกับราคาโทรศัพท์ถูกลงมาก (Smartphone แบรนด์ Samsung เริ่มต้นเพียง 3,000 บาท) ทำให้ชาวเมียนมาเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือได้ง่ายขึ้นมากเมื่อเทียบกับในอดีต โดย Samsung เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รองลงมาคือ Xiaomi และ Huawei ตามลำดับ ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมทั้ง 3 รายต่างพากันเสนอแพ็กเกจค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตด้วยราคาที่ค่อนข้างถูก เพื่อแย่งชิงลูกค้าในตลาด (จากข้อมูล Telenor ของเมียนมา ระบบเติมเงิน ค่าโทรนาทีละ 1 บาท อินเทอร์เน็ต 0.32 บาทต่อเมกะไบต์ เทียบกับผู้ให้บริการเครือข่ายของไทย ระบบเติมเงิน ราคา 49 บาท ค่าโทรนาทีละ 0.55 บาท ฟรีอินเทอร์เน็ต)

3 อันดับเพจยอดนิยมใน Facebook...เทรนด์ยุคใหม่ใส่ใจข่าวสารบ้านเมือง

เมืองย่างกุ้งในวันนี้จะสามารถพบเห็นชาวเมียนมานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตได้ทั่วไปตามสถานที่สาธารณะ ดังที่เราพบเห็นพฤติกรรมแบบนี้ในกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันร้านอาหารและร้านกาแฟส่วนใหญ่ในเมืองย่างกุ้งต่างมีบริการ Free Wifi เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สำนักข่าวท้องถิ่นเมียนมารายงานผลสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตว่า ชาวเมียนมาเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 2.4 ชั่วโมงต่อวัน กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ทำแบบสำรวจทั้งหมดระบุว่า ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้า Social Media เป็นหลัก ขณะที่บางส่วนใช้ส่งข้อความและดูวิดีโอออนไลน์ และอย่างที่ทราบกันดีว่า Social Media ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเมียนมา คือ Facebook ล่าสุดจำนวนผู้ใช้ Facebook ในเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 1 ล้านบัญชีในปี 2556 เป็น 14 ล้านบัญชีในปัจจุบัน (มากเป็นอันดับ 6 ในอาเซียน) นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Website Myanmar Entrepreneur ระบุว่า ชาวเมียนมาเข้าใช้งาน Facebook เฉลี่ยอยู่ที่ราว 3 ครั้งต่อชั่วโมง โดยกลุ่มผู้ใช้ Facebook ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์เป็นหลัก และกว่า 60% เป็นกลุ่มวัยรุ่นชายช่วงอายุราว 18-35 ปี ขณะที่ผู้หญิงยังไม่คุ้นเคยกับอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีมากนัก โดยเพจ Facebook ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรกล้วนมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับข่าวสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ 7 Days News Journal (มีชาวเมียนมากดไลค์ราว 16 ล้านคน) Eleven Media Group (14 ล้านคน) และ BBC Burmese (11 ล้านคน)

Viber และ Facebook Messenger…2 ช่องทางแช็ตสุดฮิตในเมียนมา

นอกจาก Facebook แล้ว ชาวเมียนมายังนิยมส่งข้อความหรือแช็ตค่อนข้างมากเช่นกัน ซึ่งแอปพลิเคชันสำหรับแช็ตในเมียนมามีให้เลือกหลากหลายเหมือนกับในไทย อาทิ Viber, Facebook Messenger, Line, Whatsapp, BeeTalk และ WeChat แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมียนมา คือ Viber (เทียบกับไทยใช้ Line มากเป็นอันดับ 1) ด้วยจำนวนผู้ลงทะเบียนกว่า 9 ล้านบัญชี เนื่องจากวิธีใช้งานค่อนข้างง่ายและสะดวก เพียงแค่มีเบอร์โทรศัพท์ก็สามารถลงทะเบียนใช้งานได้ทันที ประกอบกับระบบการใช้งานค่อนข้างมีเสถียรภาพ ขณะที่ Facebook Messenger ได้รับความนิยมรองลงมา อาจเป็นเพราะขั้นตอนการสมัครเข้าใช้งานที่ยุ่งยากกว่า เนื่องจากต้องลงทะเบียนด้วย E-mail Address ก่อน

การรุกทำตลาดเมียนมาด้วยช่องทางหรือรูปแบบเดิมๆ อาจไม่สามารถตอบโจทย์และเข้าถึงชาวเมียนมายุคใหม่ได้อีกต่อไป ช่องทางลัดที่จะช่วยสร้างตัวตนของสินค้าและบริการไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดเมียนมาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพคงไม่อาจมองข้ามสื่อออนไลน์ที่จะเป็นตัวกลางสำคัญในการเข้าถึงตลาดเมียนมา โดยเฉพาะกลุ่มประชากรออนไลน์ที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ กระแสความนิยมอินเทอร์เน็ตไม่เพียงพลิกโฉมพฤติกรรมผู้บริโภคในเมียนมา แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจเกิดใหม่ตามไปด้วยอย่าง Grab และ Uber ผู้ให้บริการด้านแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึง Airbnb ธุรกิจแบ่งปันที่พักออนไลน์ ก็เริ่มได้รับความสนใจจากชาวเมียนมามากขึ้น ซึ่งจะเก็บข้อมูลและรายละเอียดมาฝากในโอกาสต่อไป

Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ ไม่ว่าโดยทางใด

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนตุลาคม 2560--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ