กระทรวงเกษตรฯ เข้มหลักเกณฑ์การตรวจสอบจ่ายค่าชดเชยสิทธิการทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ กรณีผู้ได้รับสิทธิไม่พึงประสงค์ทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ป้องกันฉวยโอกาสฟอกที่ดิน คาดมีผู้ประสงค์คืนที่ดิน ส.ป.ก. ไม่เกินร้อยละ 10

ข่าวทั่วไป Monday January 5, 2015 16:56 —สำนักโฆษก

กระทรวงเกษตรฯ เข้มหลักเกณฑ์การตรวจสอบจ่ายค่าชดเชยสิทธิการทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ กรณีผู้ได้รับสิทธิไม่พึงประสงค์ทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ป้องกันฉวยโอกาสฟอกที่ดิน คาดมีผู้ประสงค์คืนที่ดิน ส.ป.ก. ไม่เกินร้อยละ 10

นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) โดยมีนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ว่า ตามที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้อนุมัติหลักเกณฑ์การจ่ายค่าชดเชยสิทธิการทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ที่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) กรณีผู้ได้รับสิทธิไม่พึงประสงค์จะทำประโยชน์ในที่ดินและขอคืนสิทธิให้กับ ส.ป.ก. ในอัตราร้อยละ 60 ของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน (กรมธนารักษ์) แต่ไม่เกินไร่ละ 60,000 บาท โดยให้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายๆไปนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้เน้นย้ำให้วางหลักเกณฑ์การตรวจสอบผู้ที่ไม่พึงประสงค์จะทำประโยชน์ในที่ดินและขอคืนสิทธิให้กับ ส.ป.ก. อย่างรัดกุม เช่น ผู้ที่ประสงค์คืนที่ดินต้องเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งพิจารณาระยะเวลาการถือครองที่ดิน เนื่องจากอาจมีผู้ฉวยโอกาสทำการฟอกที่ดิน เช่น มีระยะเวลาถือครองที่ดินเพียง 1-2 ปี ก็นำที่ดินมาคืน ส.ป.ก. เพื่อขอรับค่าชดเชย ซึ่ง คปก. จะนำข้อเสนอแนะในที่ประชุมไปวางหลักเกณฑ์การตรวจสอบให้เข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ที่จะช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีที่ทำกินอย่างแท้จริง

สำหรับการตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิไม่พึงประสงค์ทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.นั้นประกอบด้วยหลักเกณฑ์ต่างๆ เช่น ต้องเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี เป็นบุคคลที่ชราภาพ หรือทุพพลภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ และไม่มีบุตรหลานตามเงื่อนไขกฎหมายที่สามารถตกทอดทางมรดก เป็นต้น ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้เกษตรกรที่ดูแลที่ดิน ส.ป.ก.มาอย่างดีเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งเป็นเหมือนบำเหน็จให้แก่เกษตรกรในยามชราให้มีเงินดูแลตนเองด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ที่อายุมากว่า 65 ปี ประมาณ 2 แสนกว่าราย ซึ่งคาดว่าจะมีเพียงร้อยละ 10 ที่ไม่พึงประสงค์จะทำประโยชน์ในที่ดินและขอคืนสิทธิให้กับ ส.ป.ก. ซึ่งจะได้นำที่ดินดังกล่าวจัดสรรให้ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินต่อไป

นายวีระชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบของ ส.ป.ก.ให้สามารถจัดซื้อที่ดินโดยไม่ต้องประกาศเขตก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดซื้อที่ดินต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ โดยใช้ระยะเวลาเป็นปี ทำให้เกิดความล่าช้าและเมื่อถึงขั้นตอนการทำสัญญาซื้อขายเจ้าของที่ดินก็เปลี่ยนใจ ทำให้เสียโอกาสในการช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาการกำหนดที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินตามโครงการจัดหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินใน จ.นครปฐม การพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งให้สิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินของเกษตรกร การกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน และการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นต้น

กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ

สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์

โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871

moacnews@gmail.com

www.moac.go.th

www.facebook.com/kasetthai

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ