รัฐบาลไทยปฏิเสธข่าวใช้ปืนขู่เรือผู้ลักลอบให้ออกนอกน่านน้ำตามคำกล่าวอ้างของโรฮินจา ชี้หากตั้งใจจะขับไล่ไม่จำเป็นต้องให้ข้าวให้น้ำก่อน รับข่าวนี้ทำทหารเรือเสียกำลังใจวอนสื่อเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง

ข่าวทั่วไป Thursday May 21, 2015 11:41 —สำนักโฆษก

พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข่าวที่ผู้ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายซึ่งลอยลำเข้ามาในเขตน่านน้ำรอยต่อประเทศไทยมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันขึ้นฝั่งอยู่ที่จังหวัดอาเจะห์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยหนึ่งในชาวโรฮินจาที่เดินทางมากับเรือให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ทหารไทยได้ใช้ปืนขู่จะยิงเรือของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาเดินทางต่อไป

พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิดย้ำ รัฐบาลไทยมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนที่จะไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบใด ยึดหลักการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม รวมทั้งได้มีการตรวจสอบกับทหารทุกนายที่ปฏิบัติการช่วยเหลือในคืนนั้นยืนยันว่า ไม่มีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ตามคำกล่าวอ้าง

ข้อเท็จจริงคือ เมื่อตรวจสอบพบเรือของผู้ลักลอบ ได้มีการสอบถามพูดคุย พบว่า ทั้งหมดต้องการเดินทางต่อไม่ประสงค์จะขึ้นฝั่งไทยโดยร้องขออาหารและน้ำดื่ม

"รัฐบาลและกองทัพเรือขอปฏิเสธข่าวที่ไร้มูลความจริงนี้โดยสิ้นเชิง ข้อเท็จจริงคือนอกจากทหารเรือไทยจะให้อาหารและน้ำดื่มตามหลักมนุษยธรรมแล้ว ยังช่วยซ่อมเครื่องยนต์เรือที่ชำรุดให้ตามที่ร้องขอ ซึ่งต้องดำเนินการถึงตีสามกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจในวันนั้น

ดังนั้นหากคิดจะใช้กำลังข่มขู่ขับไล่ก็ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องไปสอบถาม ไปให้การช่วยเหลือจนค่อนคืน และในวันนั้นก็มีสื่อมวลชนเป็นพยาน มาบันทึกภาพเหตุการณ์การช่วยเหลือด้วยความตั้งใจของทหารเรือไทย รัฐบาลไทยรู้สึกเจ็บปวดกับคำกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยและทำให้ทหารเรือไทยซึ่งทุ่มเท ตั้งใจทำงานทั้งเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมมนุษย์ และเพื่อปกป้องอธิปไตยทางทะเลของชาติรู้สึกเสียใจไม่น้อย"

พลตรีสรรเสริญ กล่าวต่อว่าแม้จะได้รับการกล่าวร้ายที่ไม่เป็นธรรมซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการที่นานาชาติจะเข้าใจประเทศไทยผิด แต่รัฐบาลไทยยังจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติต่อผู้เคลื่อนย้ายโดยไม่ปกติเหล่านี้ โดยหากอยู่ในเขตนอกน่านน้ำไทยก็จะให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม เช่นให้อาหารน้ำดื่ม หากประสงค์จะเข้าเขตน่านน้ำไทยก็ต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมายไทยในฐานะผู้ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายต่อไป

"สุดท้ายอยากฝากให้สื่อมวลชน พิจารณานำเสนอข่าวอย่างรอบคอบ โดยใช้หลักเหตุและผลตรึกตรอง เพื่อมิให้ข้อมูลอันเป็นเท็จเหล่านี้มาบั่นทอนกำลังใจผู้ที่ตั้งใจทำงาน"

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ