การปรับปรุงระบบประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ.

ข่าวทั่วไป Friday May 29, 2015 15:13 —สำนักโฆษก

พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2558 ถึงการปรับปรุงระบบการประเมินคุณภาพภายนอก ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นระบบออนไลน์ เพื่อช่วยลดภาระงานธุรการของครูและสถานศึกษา โดยจะเริ่มใช้ในการประเมินรอบที่ 4 (เมษายน 2559)

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่ศาสตราจารย์ ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวเรื่องการปรับปรุงระบบการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. เพื่อการปฏิรูปการศึกษาไทยให้มีคุณภาพดีขึ้น ประกอบกับมีเสียงเรียกร้องให้มีการทบทวนบทบาทของ สมศ. ก่อนการประเมินรอบ 4 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมา และต้องการเห็นการปรับปรุงการประเมินในประเด็นต่างๆ ได้แก่ 1) ตัวชี้วัดการประเมินต้องสะท้อนคุณภาพและสามารถนำมาใช้พัฒนาคุณภาพได้จริง 2) มาตรฐานการประเมินต้องดี 3) ไม่เป็นภาระงานมาก 4) ประเมินเชิงพื้นที่มากขึ้น

จึงได้มอบหมายให้ สมศ. แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา เพื่อทบทวนและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและพิจารณาปรับปรุงตัวชี้วัด ตลอดจนวิธีการประเมิน ซึ่งได้ข้อสรุปที่สำคัญ ดังนี้

1) ยกเลิกการประเมินภายนอกแบบเดิม กล่าวคือ ควรยกเลิกการประเมินจากเอกสารจำนวนมากที่โรงเรียนหรือสถานศึกษา เปลี่ยนเป็นการ “ประเมินออนไลน์” โดยบูรณาการใช้ข้อมูลของหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาเป็นหลัก ไม่ต้องไปประเมินที่โรงเรียน เพื่อลดภาระงานแก่ครู ยกเว้นกรณีโรงเรียนที่มีข้อมูลสะท้อนปัญหาหรือความผิดปกติบางอย่างก็สามารถเข้าไปประเมินเชิงลึกและช่วยเหลือเป็นกรณีๆ ไป

2) การจัดระบบใหม่เพิ่มเติม โดยให้มีการขอรับการประเมินโดยสมัครใจ ที่จะนำผลการประเมินไปใช้พัฒนาสถานศึกษา ตามความพร้อมของแต่ละสถานศึกษาโดยอาจมีการรับรองมาตรฐานหลายระดับ เช่น ระดับพื้นฐาน ระดับก้าวหน้า เป็นต้น

3) การประเมินเพื่อพัฒนาโรงเรียนและสถานศึกษาบางกลุ่ม ที่เป็นเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์การปฏิรูปของกระทรวง หรือของรัฐบาล หรือของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เช่น โรงเรียนในพื้นที่ยากลำบากหรือโรงเรียนขนาดเล็กที่เป็นปัญหามานาน

การปรับหลักเกณฑ์การประเมินของ สมศ.ครั้งนี้ จะช่วยลดภาระของครูและสถานศึกษา ทั้งในส่วนของงานธุรการและเอกสารในการประเมิน ลดเวลา และช่วยแก้ปัญหามาตรฐานของผู้ประเมินที่ไม่เท่าเทียมกัน โดยใช้การประเมินตัวชี้วัดและส่งข้อมูลผ่านระบบออนไลน์แทน ซึ่งจะส่งผลดีต่อสถานศึกษาเป็นอย่างมาก และสามารถนำวิธีดังกล่าวมาใช้ในการประเมินรอบที่ 4 (เมษายน 2559) ได้ทันที เพราะไม่ขัดกับกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวก็ยังคงเห็นว่าการประเมินภายนอกยังคงมีความจำเป็น เพียงแต่จะต้องปรับรูปแบบให้มีความเหมาะสมมากขึ้นและไม่เป็นภาระสำหรับสถานศึกษา

ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ สมศ.ได้ลงทุนพัฒนาระบบการประเมินออนไลน์โดยใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อพลิกโฉมและปฏิรูปการประเมินที่จะส่งผลต่อการปฏิรูป ระบบภาวะรับผิดชอบของสถานศึกษาทุกแห่ง และนำไปสู่การใช้ประโยชน์จากการประเมินมากขึ้น เช่น การประเมินแบบพุ่งเป้าหมายเพื่อให้การช่วยเหลือโรงเรียนที่มีปัญหา

ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ก็เตรียมการรับเรื่องนี้มาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจะช่วยรัฐบาลคิดวิธีการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการประเมินโดยสมัครใจมากขึ้น เกิดวัฒนธรรมคุณภาพมากขึ้น ทำให้การรายงานข้อมูลของโรงเรียนเป็นระบบที่แสดงความรับผิดชอบต่อการจัดการศึกษาได้จริง

นวรัตน์ รามสูต - บัลลังก์ โรหิตเสถียร : สรุป/รายงาน

สถาพร ถาวรสุข : ถ่ายภาพ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ