รอง นรม. พล.อ.อ.ประจินฯ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล ( ค.ต.น.) ครั้งที่ 6/2560

ข่าวทั่วไป Thursday June 1, 2017 15:32 —สำนักโฆษก

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการผลักดัน โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงของกระทรวงคมนาคม

วันนี้ (1 มิถุนายน 2560) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ชั้น 3 ทำเนียบรัฐบาล พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล ( ค.ต.น.) ครั้งที่ 6/2560 ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการผลักดัน โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 – 2563 ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง (โครงการภายใต้ความร่วมมือ ไทย – จีน) โดยมีความคืบหน้าตามลำดับ และเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการได้พิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีมติให้โครงการความร่วมมือด้านรถไฟฟ้าไทย – จีน ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมาให้รายงานข้อมูลเพิ่มเติม และคาดว่าจะสามารถนำเสนอโครงการฯ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนมิถุนายน 2560 ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง (โครงการภายใต้ความร่วมมือไทย – ญี่ปุ่น) ช่วงกรุงเทพ – เชียงใหม่ อยู่ในระหว่างดำเนินการศึกษาวิเคราะห์โครงการของฝ่ายญี่ปุ่นคาดว่าจบแล้วเสร็จภายในปี 2560 รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายกรุงเทพ – ระยอง ขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ในระหว่างปรับปรุงข้อมูลในส่วนผลของการทดสอบความสนใจของนักลงทุน และพิจารณาความเหมาะสมของเส้นทาง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิถุนายน 2560

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการขับเคลื่อนโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้กรุงเทพเป็นมหานครแห่งอาเซียน ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง สังกัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจ และจัดทำแผนการนำสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ รวมทั้งสายเคเบิ้ลลงใต้ดิน โดยให้จัดทำแผนการดำเนินงานประกอบด้วยแนวเขตพื้นที่การดำเนินการระยะเวลา ขั้นตอนการดำเนินงาน งบประมาณ และผลกระทบที่มีต่อพื้นที่ ประกอบด้วย 5 โครงการ ได้แก่โครงการนนทรี โครงการพระราม 3 โครงการรัชดาภิเษก – พระราม 9 โครงการรัชดาภิเษก – อโศก และโครงการเพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน ทั้งนี้ มอบหมายให้นำแผนงานของการไฟฟ้านครหลวงเป็นแผนงานหลัก โดยร่วมดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปแบบบูรณาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้กรุงเทพมหานคร รวบรวมแผนงานการนำสายสาธารณูปโภคต่าง ๆ ใน กทม. ลงใต้ดิน พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะตามเส้นทางโครงการทั้ง 5 โครงการ โครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ภายในเดือนมิถุนายน 2560

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการจ้างงานผู้พิการในหน่วยงานของรัฐและสถานประกอบการต่าง ๆ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงแรงงานได้รายงานผลความก้าวหน้าในการติดตามและตรวจสอบการจ้างคนพิการเข้าทำงานของนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต่าง ๆ ให้มีการดำเนินการที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ เผยหน่วยงานของภาครัฐจะต้องรับเข้าทำงานและจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ เพื่อให้คนพิการได้เข้าทำงานจริงในสถานประกอบการ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้รับการพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพและเป็นที่ยอมรับของสังคมต่อไป

ตอนท้ายของการประชุม ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการให้ความสนับสนุนในการเรียกเก็บชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ของกระทรวงการคลังตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงการคลังได้รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้วยการเสนอพระราชบัญญัติกองทุนฯ ดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 เพื่อรวมกองทุนเงินให้กู้ยืม เพื่อการศึกษา (กยศ.) และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ให้เป็นหน่วยงานเดียวกัน ซึ่งมีหลักการสำคัญ 3 ประเด็น ได้แก่ (1) กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่หักเงินเดือนของผู้กู้ยืม (2) มีอำนาจตามกฎหมายในการขอข้อมูลผู้กู้ยืม พร้อมทั้งมีอำนาจเปิดเผยข้อมูลของผู้กู้ยืมด้วย และ (3) ผู้กู้ยืมมีหน้าที่แจ้งการเป็นผู้กู้ยืมต่อนายจ้าง พร้อมให้ความยินยอมหักเงินเดือนกองทุนฯ ในขณะที่ทำสัญญากู้และยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลการกู้ยืมเงินด้วย อีกทั้ง ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ โครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง) ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งประสงค์ให้มีการขับเคลื่อนด้านที่อยู่อาศัย ภายใต้นโยบายการแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในสังคม พร้อมสร้างโอกาสการเข้าถึงสวัสดิการสังคมและที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อย กลุ่มข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และครูทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนพัฒนาที่อยู่อาศับ 10 ปี (2559 – 2568) ในรูปแบบสวัสดิการตั้งแต่ปี 2559 – 2560 จำนวน 25,000 หน่วย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวในระยะเร่งด่วนปีงบประมาณ 2559 จะดำเนินการ 783 หน่วย รวม 13 โครงการ กระจายในพื้นที่กรุงเทพ (ทุ่งสีกัน 5 ดอนเมือง และพุทธมณฑลสาย 3 ) จังหวัดสมุทรสาคร (กระทุ่มแบน) จังหวัดนนทบุรี (สนามบินน้ำ) จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครพนม และจังหวัดปราจีนบุรี ตามลำดับ โดยจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2560 นี้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมคาดหวังว่าบุคลากรภาครัฐจะได้มีโอกาสมีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน ใกล้สถานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ เป็นการสร้างความมั่นคงในด้านที่พักอาศัย ก่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้ปฏิบัติงานได้เต็มกำลังความสามารถมากยิ่งขึ้น

..................................................................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ