นายกรัฐมนตรีเร่งโครงการและแผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมชายแดนภาคใต้

ข่าวทั่วไป Wednesday April 4, 2018 16:33 —สำนักโฆษก

นายกฯ แนะปลูกปาล์มให้สอดคล้องกับความต้องการ และขยายผลการท่องเที่ยวควบคู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในพื้นที่ ย้ำส่วนราชการปรับเปลี่ยนวิธีคิดและการดำเนินงานหาแนวทางใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์เพื่อให้การพัฒนาชายแดนใต้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

วันนี้ (4 เมษายน 2561) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนภาคเอกชน ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ชายแดนเข้าร่วมประชุม

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนการประชุมว่า การลงพื้นที่จังหวัดปัตตานีในวันนี้ เพื่อมาตรวจเยี่ยมพบปะกับประชาชน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งเพื่อติดตามความก้าวหน้า รวมถึงต้องการรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ยังมีปัญหา ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ชายแดน โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพต้องพัฒนาเชื่อมโยงไปสู่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ลดความเหลื่อมล้ำ เกิดความปรองดองและความสงบในพื้นที่ต่อไป สำหรับการเสนอและดำเนินการเสนอขอโครงการต่าง ๆ นั้น เพื่อให้เกิดผลโดยเร็วและสามารถดำเนินการได้ ให้เสนอแยกเป็นตอนๆ เป็นช่วงๆ แทนการเสนอในภาพใหญ่ และต้องรายงานการใช้งบประมาณอย่างละเอียด โปร่งใส สุจริต โดยให้คำนึงถึงความต้องการของประชาชนและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุมได้นำเสนอโครงการสำคัญ ดังนี้ 1. ความก้าวหน้าการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยนายกรัฐมนตรีรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการขยายกำลังการผลิตปาล์มน้ำมัน และขอให้คำนึงถึงปริมาณการปลูกปาล์มให้สอดคล้องกับความต้องการ และให้เตรียมมาตรการรองรับราคาปาล์มด้วย ในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปมะพร้าว ให้กำหนดพื้นที่ปลูกมะพร้าวพร้อมจัดสรรพื้นที่สาธารณะให้ปลูกมะพร้าวโดยให้บริหารจัดการร่วมกัน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการต้นแบบ รวมทั้งให้สถาบันการศึกษาในพื้นที่วิจัยพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมการผลิต 2. การบริหารจัดการด้านพลังงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าชีวมวลใน 3 จังหวัดภาคใต้ และการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าโดยชุมชน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้าของพื้นที่และสามารถพึ่งพาตนเองได้ เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้ชายแดนเป็นแหล่งที่มีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจำนวนมาก

3. ผลการดำเนินงานด้านคมนาคม (ท่าเทียบเรือปัตตานี/ท่าอากาศยานเบตง) นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างความเจริญให้กับพื้นที่ 4. การดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว (การพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน/แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่) นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ขยายผลการท่องเที่ยวโดยชุมชน เนื่องจากจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ด้านรายได้โดยตรง รวมทั้งควรสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยง เชื่อมต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวควบคู่กับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในพื้นที่แบบแพ็คเกจ สร้างสตอรี่เรื่องราวต่างๆ ให้น่าสนใจ ทำอย่างไรให้คนเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยให้จัดทำแผน กำหนดกิจกรรมการท่องเที่ยว และกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างเชื่อมโยงขยายไปสู่การท่องเที่ยวในกลุ่มพื้นที่ต่อไป

และ 5. ผลการดำเนินงานยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้พัฒนาปฏิรูปการศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้เยาวชนเข้าสู่ระบบการศึกษา การพัฒนาอาชีพ และเป็นแรงงานที่มีศักยภาพสามารถสร้างโอกาสในการทำงานต่อไป พร้อมส่งเสริมให้เปิดการเรียนการสอนหลักสูตร 2 ภาษา รวมทั้งส่งเสริมให้มีโรงเรียนประจำในพื้นที่และทำให้ได้โดยเร็ว

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำให้ส่วนราชการต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการในการดำเนินงานเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ หากมีปัญหาอุปสรรคให้รีบแก้ไข และพยายามหาแนวทางใหม่ ๆที่สร้างสรรค์เพื่อให้การพัฒนาชายแดนใต้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ