ผบ.ตร.เผยเตรียมขอหมายจับผู้ต้องสงสัยบึ้มราชประสงค์เพิ่ม ยันคาดทำเป็นขบวนการ

ข่าวทั่วไป Monday August 31, 2015 12:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยผลการสอบปากคำชายชาวต่างชาติผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรหลังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คนเมื่อวันเสาร์ว่า ขณะนี้ทางพนักงานสืบสวนได้ขอให้ศาลอนุมัติหมายจับเพิ่ม แต่ยังอยู่ในขั้นตอนอนุมัติ โดยเชื่อว่าการที่พนักงานสอบสวนออกหมายจับนั้นจะต้องมีพยานหลักฐานแน่ชัดแล้ว ซึ่งเชื่อว่ามีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอยู่ในขบวนการ เนื่องจากการที่ชาวต่างชาติจะเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย จำเป็นต้องทราบเส้นทางการเข้าออกประเทศเป็นอย่างดี รวมถึงการหาที่อยู่อาศัย หาอุปกรณ์ประกอบระเบิด และการหาเส้นทางหลบหนีหลังการก่อเหตุ ซึ่งอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องช่วยเหลือก็เป็นได้ โดยขบวนการนี้มั่นใจว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 คน รวมถึงการเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย

ส่วนเรื่องหนังสือเดินทางปลอม จำนวนหลายร้อยเล่ม ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะคาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมจะต้องการสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก เพราะเกรงว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ส่วนข้อกังวลว่าอาจจะมีการก่อเหตุขึ้นอีกในขณะควบคุมตัวผู้ต้องหา ทางนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้มีการประชุมหามาตรการอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจได้ว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้

แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าไม่ใช่การก่อการร้ายข้ามชาติ เพราะการก่อการร้ายข้ามชาติจะต้องมีกระบวนการมากกว่านี้ พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวชาวปาเลสไตล์ตามที่เป็นกระแสข่าวอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สำหรับการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดในกรณีวางระเบิดที่ สี่แยกราชประสงค์นั้น เป็นฝีมือการสืบสวนของทางตำรวจอย่างแท้จริง โดยไม่มีผู้แจ้งเบาะแสของผู้กระทำผิดเข้ามาแต่อย่างใด และวันนี้ตำรวจได้ขอทำหนังสือถึงศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 ราย ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

พร้อมกันนี้ ผบ.ตร. ได้เตรียมมอบเงินรางวัลนำจับคนร้ายคดีลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์ จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าตำรวจที่ทำงานอย่างหนักจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ