กรมชลฯ พร้อมรับฝนมือฝนตกหนักภาคใต้อีกระลอก 16-20 ม.ค.นี้

ข่าวทั่วไป Monday January 16, 2017 17:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นดังนี้ ในช่วงวันที่ 16-18 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในช่วงวันที่ 19-20 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างมาก ได้สั่งการให้กรมชลประทานเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือลงไปติดตั้งเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักระลอกใหม่

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ให้ทุกโครงการชลประทานในภาคใต้ เสริมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมจากของเดิม เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักอีกระลอกในช่วงวันที่ 16 – 20 ม.ค. 60 ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนไว้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานสถานการณ์น้ำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงทีต่อไปแล้ว

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันมีจังหวัดที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนนครสรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง โดยที่นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำปากพนัง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 306 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำที่ท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องมาจากกรมชลประทาน ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เข้าไปเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลเพิ่มเติม ทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ การระบายน้ำยังต้องคำนึงถึงการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร มีเครื่องสูบน้ำที่ส่งเข้าไปช่วยเหลือจำนวนทั้งสิ้น 93 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำอีก 68 เครื่อง และยังมีเรือผลักดันน้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรืออีก 70 เครื่องด้วย นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที เร่งระบายน้ำในพื้นที่บ้านบางไทร ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จำนวน 2 เครื่อง เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้เร็วมากขึ้น หากฝนไม่ตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าจะสถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันพรุ่งนี้ ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี ที่อ.พระแสง ได้ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว 23 เซนติเมตร แต่ที่ อ.เคียนซา ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 1.27 เมตร แนวโน้มลดลง คาดว่าระดับน้ำที่ อ.เคียนซา จะลดต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 19 ม.ค.60 และที่ อ.พุนพิน ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 20 เซนติเมตร (เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วงเวลา) ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งระบายน้ำในแม่น้ำตาปี 10 เครื่อง และได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จากกองทัพเรืออีก 26 ลำ เพื่อให้ระบายน้ำออกสู่ทะเลได้เร็วที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ