สธ.แนะผู้ประสบอุทกภัยเร่งกำจัดขยะในบ้านทันทีหลังน้ำลด ป้องกันความเสี่ยงโรคฉี่หนู

ข่าวทั่วไป Wednesday August 23, 2017 18:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมเร่งกำจัดขยะมูลฝอยในบริเวณบ้านทันทีหลังน้ำลด เพื่อกำจัดแหล่งพักอาศัยของหนู ป้องกันโรคไข้ฉี่หนู โดยตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้พบผู้ป่วยแล้ว 1,072 ราย เสียชีวิต 35 ราย ซึ่งแนวโน้มมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมากกว่าปีที่ผ่านมา

"ขณะนี้หลายพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย บางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว และยังมีน้ำท่วมขังเป็นบางแห่ง พื้นที่น้ำขังหรือพื้นที่ชื้นแฉะจึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้ฉี่หนูที่มักพบมากในช่วงน้ำลดเช่นนี้ ไม่เพียงพื้นที่ชื้นแฉะเท่านั้น ขยะมูลฝอยที่อยู่ในพื้นที่บ้านเรือน มักเป็นแหล่งพักอาศัยของหนู ซึ่งเป็นสัตว์นำโรคที่สำคัญของโรคดังกล่าว" นพ.เจษฎา กล่าว

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22 ส.ค.60 มีรายงานผู้ป่วย 1,702 ราย เสียชีวิต 35 ราย พบมากในกลุ่มอายุ 45-54 ปี และอาชีพเกษตรกรมากที่สุด จากข้อมูลยังพบอีกว่า ปีนี้พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา(ป่วย 1,056 ราย เสียชีวิต 22 ราย) ขณะที่ทั้งปี 59 พบผู้ป่วย 2,285 ราย เสียชีวิต 35 ราย

เชื้อโรคไข้ฉี่หนูอาจพบปนอยู่ในปัสสาวะของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และพบมากในหนู โดยเชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสเชื้อเข้าทางผิวหนังตามรอยแผล เยื่อบุของตา จมูก ปาก หรือผิวหนังปกติที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ซึ่งเชื้อจะปนเปื้อนอยู่ตามแอ่งน้ำขังหรือพื้นดินที่เป็นดินโคลนชื้นแฉะ เช่น ตลาด คันนา สวน อาการของโรคไข้ฉี่หนูจะเริ่มจากมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะที่น่องและโคนขาจะปวดมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง เป็นต้น หากมีอาการที่กล่าวมา ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อการรักษาได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว

ขอแนะนำวิธีปฏิบัติกำจัดมูลฝอยเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู ดังนี้ 1.แยกขยะเปียก และขยะแห้งออกจากกัน ใส่ถุงดำ สำหรับถุงเศษอาหารควรบรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดแข็งแรงอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันสัตว์มากัดแทะหรือสัตว์มีพิษมาอาศัย รวมทั้งดูแลที่อยู่อาศัยให้สะอาด 2.แยกขยะประเภทอันตราย เช่น เครื่องไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า ขวดบรรจุสารเคมีที่เป็นอันตรายออกจากขยะทั่วไป โดยใส่ถุงปิดให้มิดชิดและเขียนป้ายกำกับว่าเป็นขยะอันตราย และเก็บให้พ้นน้ำ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปกำจัดให้ถูกวิธี 3.ควรแต่งกายให้มิดชิด เช่น สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมใส่สวมถุงมือยาง หรือถุงพลาสติก สวมรองเท้าบูทและหน้ากากอนามัยเวลาเก็บมูลฝอย 4.ขณะเก็บขยะภายในบ้านควรเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อเพิ่มการระบายอากาศ

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนที่ชื้นแฉะ หากจำเป็นควรสวมใส่รองเท้าบูท เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำหรือดินโดยตรง หากมีบาดแผลที่เท้าหรือที่บริเวณขา โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน ขอให้ใช้วัสดุที่กันน้ำได้ ห่อหุ้มขาและเท้าเพื่อป้องกันน้ำเปียกแผล และหมั่นล้างมือ อาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ