"ประวิตร"แจงผลงานด้านมั่นคงรอบ 2 ปียึดกรอบนโยบายประชารัฐมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

ข่าวการเมือง Thursday September 15, 2016 11:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมตรี แถลงผลงานผลงานรัฐบาลด้านความมั่นคงว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงได้แก้ไขปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทุกมิติ และสนับสนุนการดำเนินการตาม Roadmap ของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ

ทั้งนี้ งานด้านความมั่นคง เป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีมิติที่กว้างและหลากหลาย ไม่เฉพาะเรื่องปกป้องอธิปไตยของชาติเพียงอย่างเดียว แต่อนาคตจะมีความเกี่ยวข้องกับประชาชนมากขึ้น เช่น ภัยพิบัติยาเสพติด แรงงานต่างด้าว การก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น โดยยึดถือกรอบนโยบาย “ประชารัฐ" โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนซึ่งเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับคนไทยทุกๆ คนไม่ใช่หน้าที่ของทหารและตำรวจเท่านั้น

สำหรับงานด้านความมั่งคง แบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศและอาเซียน ได้แก่ ความร่วมมือทางทหาร ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) และรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (ADMM Plus), เข้าร่วมการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในกรอบขององค์การสหประชาชาติ โดยล่าสุดได้เข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับระบบกำลังเตรียมความพร้อมของสหประชาชาติ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเตรียมการส่งกำลังเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน

อีกทั้งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และบรรยากาศให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของภูมิภาคอันจะนำไปสู่ความมั่นคง ปลอดภัย และความอยู่ดีกินดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน" ณ กรมแพทย์ทหารบก และการทดสอบการปฏิบัติงานผ่านการฝึกร่วมระหว่างคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทหารกับคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติของประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจรจา ในห้วง 1-11 กันยายน ที่ผ่านมา ณ จังหวัดชลบุรี

กลุ่มงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับรัฐ คือ งานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ ได้แก่ การป้องกันประเทศ การปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน โดยบูรณาการการปฏิบัติระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนกับพื้นที่ที่มีปัญหาเขตแดนและภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้ประชาชนตามแนวชายแดนมีความมั่นคงปลอดภัย, การให้การสนับสนุนรัฐบาลและ คสช.ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการบังคับใช้กฎหมายโดยจัดตั้งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อดูแลประชาชนให้มีความสุขและความปลอดภัยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ (จำนวน 188 กองร้อย (22,565คน)

การแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สถิติการก่อเหตุรุนแรงลดลงประมาณ 60%

การสืบสวนจับกุมคดีวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ในห้วง 11-12 ส.ค.59 (จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน และออกหมายจับ จำนวน 6 ราย) แม้ว่าในทางการสอบสวนจะพบว่าผู้กระทำความผิดมาจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่พบความเชื่อมโยงและไม่ใช่การขยายพื้นที่ปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง

การแก้ไขปัญหาข้อตกลงระหว่างประเทศ ได้แก่ การทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม(Illegal, Unreported and Unregulated fishing : IUU Fishing) และการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ฯลฯ การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งประเทศไทยได้รับการยกระดับจาก Tier 3 ขึ้นมาอยู่ในระดับ Tier 2, การคุ้มครองพื้นที่ป่าไม้ โดยบังคับใช้กฎหมายกับนายทุนให้ได้พื้นที่คืน เพื่อจัดสรรเป็นที่ทำกินให้กับราษฎร และฟื้นฟูให้เป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์

และกลุ่มงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง คือ งานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้แก่ การช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ในการจัดหาที่ดินทำกินให้ราษฎรผู้ยากไร้ในลักษณะ "แปลงรวม" โดยให้ชุมชนดูแลกันเอง จำนวน 10 พื้นที่ใน 6 จังหวัด แบ่งพื้นที่เป็น 7.627 แปลง (รวมเนื้อที่ 30,500 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน 5,678 ราย), ลดหรืองดค่าเช่านา (รวมผู้เช่านา 125,294 ราย ผู้ให้เช่านา 128,550 ราย พื้นที่การเช่านาที่ได้รับ การเจรจา 2,256,370 ไร่ รวมเป็นเงินที่เจรจาขอลดค่าเช่านาซึ่งประชาชนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 48,301,074 บาท)

การจัดหางานและแก้ไขปัญหาแรงงาน ได้แก่ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวนมากกว่า 1.3 ล้านคน โดยกำหนดหลักเกณฑ์ และกระบวนการอนุญาตให้มีการจ้างงานและแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบที่รัฐกำหนดด้วยความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ประเทศจะได้รับประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับความมั่นคงของชาติ เป็นต้น

การจัดระเบียบสังคมโดยบูรณาการกำลังทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รักษาความสงบเรียบร้อย จัดระเบียบสังคมและควบคุมการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งผลที่ได้รับ คือ การสร้างความเป็นธรรมในสังคม ประชาชน มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการประกอบอาชีพสุจริต และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อาทิ การจัดการกับผู้มีอิทธิพล มาเฟีย เรียกรับผลประโยชน์ เสื้อวิน มอเตอร์ไซค์ สลากกินแบ่งรัฐบาล ยาเสพติด บ่อนการพนัน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ, การปราบปรามการค้ามนุษย์, การจัดระเบียบการค้าขายบนทางเท้า ชายหาด แก้ไขปัญหารถสาธารณะ/รถแท็กซี่ จัดการนักเรียนตีกัน และการแข่งรถในที่สาธารณะ, การจัดระเบียบขอทาน

การตรวจสถานบริการที่เปิดเกินเวลาและผิดกฎหมายและแหล่งอบายมุข การแก้ไขปัญหาขยะสะสมทั่วประเทศ การดำเนินการตาม “โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา"เลียบแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกรวมความยาวประมาณ 14 กิโลเมตรซึ่งในด้านสถาปัตยกรรมจะออกแบบแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.59 ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสามารถเข้าถึงพื้นที่ โดยมีการเชื่อมต่อกับการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบ

การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ชุมชนคลองลาดพร้าว เพื่อจัดที่อยู่อาศัยให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ชาวบ้านกับชาวบ้าน และรัฐกับชาวบ้านได้เข้ามาทำงานร่วมกันและจัดให้มีโครงการบ้านมั่นคงเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยอย่างถาวรของประชาชน (ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะมีประชาชนได้รับประโยชน์ 49 ชุมชน จำนวน 6,955 ครัวเรือน)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ