Analysis: จับตาเฟดเข็นมาตรการ Operation Twist กู้ซากศก.ในการประชุมคืนนี้

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 21, 2011 13:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกต่างจับตาผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันและจะเสร็จสิ้นในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่คณะกรรมการเฟดจะใช้มาตรการ "Operation Twist" แทนการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3)

Operation Twist เป็นมาตรการพิเศษที่มีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ปรับตัวลดลงเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ซึ่งในทางปฏิบัติก็คือการนำเงินที่ได้จากพันธบัตรที่ครบอายุการไถ่ถอนแล้วนั้น มาลงทุนต่อในพันธบัตรระยะยาว นอกเหนือจากการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว การลดลงของอัตราดอกเบี้ยระยะยาวยังช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการกู้ยืม และยังทำให้ให้ผู้บริโภคมีความคล่องตัวในการปรับโครงสร้างหนี้สัญญากู้จำนองอีกด้วย

อันที่จริง Operation Twist ไม่ใช่มาตรการใหม่ เพราะเฟดเคยนำมาใช้แล้วในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นยุคที่เพลง Let's Twist Again ของชับบี เชคเกอร์ กำลังโด่งดังสุดขีด ซึ่งในยุคนั้น เฟดได้ปฏิบัติการ twist อัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแบบเดียวกับที่คาดว่าจะดำเนินการในยุคนี้

ทั้งนี้ เฟดกำลังชั่งใจอย่างมากว่าจะตัดสินใจ Operation Twist ในช่วงเวลานี้ดีหรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่มาตรการที่นำมาใช้ในภาวะปกติ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ซึ่งเฟดนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้ การลงทุน และการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ก็อยู่ระดับใกล้ 0% แล้ว และเฟดก็ได้ใช้มาตรการ QE ไปแล้วถึง 2 ครั้ง จึงทำให้เฟดเหลือทางเลือกไม่มากนักในการกอบกู้เศรษฐกิจสหรัฐให้กลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง

กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะใช้มาตรการ Operation Twist นั้น ได้ฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.95% หลังจากทะยานขึ้นเหนือระดับ 3% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า หากเฟดตัดสินใจใช้มาตรการดังกล่าวจริง ก็จะฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลงอีก 0.25% แต่ในทางกลับกัน หากเฟดไม่ประกาศใช้มาตรการนี้ ก็จะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

นอกเหนือจากมาตรการ Operation Twist นักวิเคราะห์ในตลาดการเงินคาดว่า เฟดอาจจะใช้มาตรการอื่นๆเป็นทางเลือกในการประชุมคืนนี้ด้วย รวมถึงมาตรการ "ซื้อพันธบัตรเพิ่ม" หรือ QE3 แต่ก็มีโอกาสไม่มากนักที่เฟดจะใช้มาตรการดังกล่าว หลังจากที่มาตรการ QE1 และ QE2 ทำให้เฟดถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นสาเหตุของปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลกและทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงน้ำมันและทองคำ พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง

ส่วนมาตรการอื่นๆที่คาดว่าเฟดจะนำมาใช้คือการลด หรือ ยกเลิก อัตราดอกเบี้ย 0.25 % ที่เฟดจ่ายให้กับธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินสดมาสำรองไว้กับธนาคารกลาง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงกว่าดอกเบี้ยอัตรา 0.196% ที่ผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีจะได้รับ โดยเจ้าหน้าที่เฟดที่สนับสนุนมาตรการนี้ให้ความเห็นว่า เฟดไม่ควรจูงใจให้ธนาคารพาณิชย์ฝากเงินสดไว้กับเฟดเอง แต่ควรจะนำเงินไปปล่อยกู้ให้กับธุรกิจและภาคประชาชน

นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยบราวน์กล่าวว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการ Operation Twist มีขึ้นหลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดออกแถลงการณ์ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมาว่า การประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนก.ย.นั้น เฟดจะเพิ่มการประชุมเป็น 2 วันจากเดิมที่กำหนดไว้เพียงวันเดียว เพื่อให้คณะกรรมการเฟดมีเวลามากขึ้นในการหารือกันเรื่องทางเลือกต่างๆ

แต่หากเฟดไม่มีการประกาศมาตรการใดๆออกมาในการประชุมคืนนี้ ก็อาจจะทำให้ตลาดผิดหวังเป็นอย่างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ