(เพิ่มเติม) ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย.อยู่ที่ 75.1 สูงขึ้นต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 3, 2014 12:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย.57 อยู่ที่ 75.1 เพิ่มขึ้นจาก 70.7 ในเดือน พ.ค.57

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 65.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 68.1 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 92.0

"ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ และเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งส่วนใหญ่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน"นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มมีความมั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองไทยว่ามีเสถียรภาพมากขึ้น และคิดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้นี้ ประกอบกับการที่ชาวนาได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าวจะส่งให้กำลังซื้อทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของรายได้ของผู้บริโภคในอนาคต

"ตั้งแต่ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมา 16 ปี นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ดัชนีที่ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน รวมกันแล้วสูงถึง 7-8 จุด ซึ่งในอดีตไม่เคยเจอ ถือว่าเป็นการปรับขึ้นค่อนข้างแรง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในอนาคต ตลอดจนความหวังทางด้านรายได้ และเศรษฐกิจในอนาคตที่จะเชื่อว่าจะดีขึ้น" นายธนวรรธน์ กล่าว

ปัจจัยบวก ประกอบด้วย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาบริหารประเทศส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากการเมืองมีเสถยรภาพ, ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 58 จะขยายตัว 5.5% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.8%, คสช.อนุมัติจ่ายเงินโครงการจำนำข้าว

ส่วนปัจจัยลบ ประกอบด้วย กรณีที่สหรัฐอเมริกาปรับลดอันดับประเทศไทยสู่บัญชีต่ำสุดในรายงานการค้ามนุษย์, การส่งออกในเดือน พ.ค.ลดลง 2.1%, ราคาพืชผลทางการเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ, ผู้บริโภคยังวิตกกังวลค่าครองชีพและราคาสินค้า และความกังวลเกี่ยวความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ คาดการณ์ว่าการบริโภคของประชาชนจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลบอลโลกจะเป็นตัวกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยที่สำคัญ ประกอบกับ การที่ชาวนาได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าวจะทำให้กำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ ทั้งนี้การบริโภคจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ภายใต้ความเชื่อมั่นที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ และในปีหน้าเริ่มเห็นสัญญาณว่าดัชนีมีโอกาสจะเข้าใกล้สู่ระดับ 100

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลที่ได้สำรวจพบว่ากำลังซื้อในต่างจังหวัดค่อนข้างฟื้นตัวช้า อาจเป็นเหตุผลจากปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นสำคัญที่เป็นตัวบั่นทอนกำลังซื้อ จึงทำให้เม็ดเงินที่ชาวนาได้รับจากโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากนัก ดังนั้น แนวทางที่พอจะแก้ไขได้คือภาครัฐจะต้องทำให้เม็ดเงินลงไปหมุนเวียนในเศรษฐกิจต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงสิ้นปีงบประมาณ เพื่อให้เกิดโครงการลงทุนก่อสร้างต่างๆ ในภูมิภาคและมีการจ้างงานในท้องถิ่นตามมา ตลอดจนการดูแลค่าครองชีพไว้ถึงสิ้นปีในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ในปัจจุบัน

นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า จากมุมมองของ ธปท.ที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ 1.5% นั้นถือว่ามีน้ำหนักที่น่าสนใจ เพราะหลายสำนักต่างประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะเติบโตได้เกิน 2% ดังนั้น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงจะขอทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้อีกครั้ง และจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ก.ค.57 ซึ่งขณะนี้ยังให้มุมมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตเกิน 2% ขณะที่ปีหน้าคาดว่าเติบโตได้ราว 5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ