เงินบาทเปิด 31.99/32.01 อ่อนค่าหลังเฟดลด QE-ตัวเลข GDP สหรัฐฯดีกว่าคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 31, 2014 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.99/32.01 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.8/89 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทวันนี้มีทิศทางอ่อนค่า เนื่องจากล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ(FED) มีมติปรับลด QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับตัวเลข GDP ของสหรัฐไตรมาส 2/57 ออกมาดี โดยขยายตัว 4% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

"บาทวันนี้คงมีทิศทางอ่อนค่า เพราะเมื่อคืน FOMC ก็มีมติลด QE ลงตามคาด รวมทั้งตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.95-32.10 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.77/80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.20 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.3396/3398 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3399/3400 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.8640 บาท/ดอลลาร์
  • หอการค้าไทย ยืนยันเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ชี้ตัวเลขการขยายตัวดีขึ้นไตรมาสต่อไตรมาส ขณะที่ความเชื่อมั่นภาคเอกชนเริ่มกลับมา ส่งผลภาคอุตสาหกรรมเริ่มลงทุนอีกครั้งหลังได้บีโอไอและใบอนุญาต รง. 4 สศค. ปรับประมาณการใหม่คาดปีนี้เศรษฐกิจไทยโต 2% มั่นใจครึ่งปีหลังพุ่งแตะ 4.3% ของจีพีดี
  • นายแบงก์แนะผู้ประกอบการกู้ระยะยาวล็อกสภาพคล่องและต้นทุน หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยกลางปีหน้าเงินไหลออกดอกเบี้ยเพิ่ม ด้านกสิกรไทยห่วงปัญหาหนี้ครัวเรือน คุมสินเชื่อโตตามเป้า 6-9% ส่วนกรุงไทย ให้กู้สูงสุด 1 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักประกันดอกเบี้ย 18% ต่อปี
  • ทีเอ็มบีเตือนสภาพคล่องในระบบจะลดลงในปีหน้าหลังโครงการลงทุนภาครัฐ-เอกชนฟื้นตัวชัดเจน แนะเตรียมพร้อมบริหารเงินทุน-ต้นทุน ขณะที่ค่าบาทจะยังผันผวนต่อจนกว่าสหรัฐฯ จะมีสัญญาณชัดเจนถึงระยะเวลาขึ้นดอกเบี้ย คาดปลายปีเงินฝากแข็งแรงขึ้น
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จากระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน บ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการฯ ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed fund rate) เอาไว้ที่ระดับ 0-0.25% โดยระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด

  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4% ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 3%
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,980 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,297.58 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์พลังงาน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 100.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 230,000 ตำแหน่ง ซึ่งชะลอลงจากเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 6.1% ในเดือนก.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ