เงินบาทปิด 32.36/38 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง ตลาดรอดูมาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 29, 2014 16:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.36/38 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.35/36 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยระหว่างวัน high สุดที่ระดับ 32.38 บาท และ low สุดที่ระดับ 32.34 บาท โดยช่วงนี้ทิศทางดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลหลักอื่นๆ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศระยะนี้ยังไม่มีอะไรจะทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าได้

"แม้แพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะประกาศออกมาในวันพุธนี้ จะดูดี แต่หากเงินดอลลาร์ยังคงมีทิศทางที่แข็งค่าต่อเนื่อง เงินบาทก็จะยังเป็นเช่นนี้ เพราะทิศทางเงินบาทช่วงนี้ขึ้นกับแนวโน้มดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.30-32.40 บาท/ดอลลาร์

ส่วน THAI BAHT SPOT RATE FIXING วันนี้อยู่ที่ 32.3544 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.62 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.46 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.2679 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2676 ดอลลาร์/ยูโร
  • นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอแพ็คเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยจะเป็นมาตรการหลายส่วนทั้งการลงทุน การบริโภค และการช่วยเหลือภาคเกษตรกร โดยยืนยันว่าไม่ใช่การใช้งบประมาณในลักษณะโครงการประชานิยม
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดส่งออกเดือนส.ค.57 อยู่ที่ 18,943 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.40% ขณะที่ การนำเข้าอยู่ที่ 17,797 ล้านดอลลาร์ ลดลง 14.17% โดยเกินดุลการค้า 1,146 ล้านดอลลาร์ ส่วนการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ยังติดลบ 1.36%
  • อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยอมรับว่าการส่งออกเติบโตไม่เป็นไปตามคาด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาดไว้ และทั้งปีนี้การส่งออกอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายว่าจะขยายตัวได้ 3.5% โดย รมว.พาณิชย์ นัดหารือผู้ประกอบการส่งออกในวันที่ 18 ต.ค. และนัดหารือทูตพาณิชย์ในวันที่ 20 ต.ค.เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกและทิศทางเศรษฐกิจโลกต่อไป
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในช่วงครึ่งปีหลังอาจเติบโตไม่ถึง 4% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการส่งออกยังไม่ฟื้นตัวได้ดีอย่างที่คาดหวัง ดังนั้น จึงปรับลดคาดการณ์ GDP ทั้งปี 57 เหลือเติบโตในช่วง 1.6-2% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโตได้ 1.5-2.5% หลังจากประเมินว่าการส่งออกคงจะเติบโตไม่ถึง 1% ในปีนี้ หลังจากเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2557 มีสัญญาณแผ่วลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน นอกจากนี้การส่งออกสินค้ายังคงหดตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีการชะลอตัว สำหรับภาคการท่องเที่ยวยังคงหดตัวเช่นกัน
  • สำนักงานความเชื่อมั่นเชิงพานิชย์ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์การเมืองที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกเกือบหยุดชะงัก และกระทบต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจในสิงคโปร์ ซึ่งฉุดดัชนี Business Optimism Index (BOI) ไตรมาสที่ 4 ลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือน
  • -ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ขยับขึ้นเล็กน้อยวันนี้ จากแรงขายทำกำไร ซึ่งได้สกัดคำสั่งซื้อในช่วงก่อนหน้านี้ที่ได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะอุปทานและอุปสงค์ที่ตึงตัวขึ้น
  • เหตุการณ์ประท้วงรุนแรงในฮ่องกงส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในฮ่องกงต้องปิดดำเนินงานที่สาขาต่างๆ พร้อมกับระงับการให้บริการบางส่วนและวางแผนรับมือกับสถานการณ์ ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้ปิดล้อมย่านธุรกิจและพื้นที่ใกล้เคียงในฮ่องกง รวมถึงย่านชอปปิ้งในคอสเวย์ เบย์ และวิคตอเรีย ฮาร์เบอร์ ซึ่งอยู่ในเกาะเกาลูน โดยจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ธนาคาร 17 แห่งได้ประกาศปิดสาขาแล้ว 29 แห่งทั่วเกาะฮ่องกง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ