นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.46/48 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.43/45 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ค่อยดี และความกังวลเรื่องสถานการณ์การชุมนุมที่ฮ่องกง
"ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องจากปัจจัยเรื่องดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับตัวเลขส่งออกไม่ค่อยดีเท่าไหร่" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า ทิศทางค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยมองกรอบไว้ 32.38-32.52 บาท/ดอลลาร์
"แนวโน้มน่าจะยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องได้อีก" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.75 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.96 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2614 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2613 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,587.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.68 จุด, +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 50,688.22 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,617.47 ล้านบาท(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 2-3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 58 โดยเน้นการสร้างงาน และเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาที่มีรายได้น้อย ด้วยการเร่งอัดฉีดงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า ครม.ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นการใช้จ่ายงบประมาณปี 57 ที่ยังค้างอยู่ และงบประมาณปี 58 โดยเฉพาะงานเร่งด่วน เน้นการซ่อมแซมไม่เน้นการสร้างใหม่ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ และให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น รวมไปถึงดูแลเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย
- น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เตรียมปรับลดคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้ลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน มิ.ย.57 โดยปัจจัยหลายตัวที่จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
- นายเจมส์ แมคคอแมค หัวหน้ากลุ่มจัดอันดับเครดิตประเทศทั่วโลก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ลอนดอน กล่าวว่า ฟิทช์ฯ ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยไว้ที่ระดับ BBB+ และมีมุมมองเป็นเสถียรภาพ เพราะยังต้องติดตามผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยได้มากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่ามาตรการที่ออกมาจะเป็นบวกต่อเครดิตของไทยมากกว่าลบ และไม่ทำให้มาตรการทางการคลังของรัฐบาลเสื่อมถอย
- นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กสิกรไทยมองเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าระยะสั้น แต่ปลายปีอ่อนแตะ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ พร้อมแนะผู้นำเข้า-ส่งออกทำประกันความเสี่ยงรับความผันผวน
- กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ(CPI)เดือน ก.ย.57 อยู่ที่ 107.43 เพิ่มขึ้น 1.75% จากเดือน ก.ย.56 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) เดือน ก.ย.57 อยู่ที่ 105.02 เพิ่มขึ้น 1.73% จากเดือน ก.ย.56 โดยอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แล้วไม่ได้เป็นสัญญาณภาวะเงินฝืด หรือเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เป็นผลจากการปรับตัวลดลงของราคาพลังงานในตลาดโลกและราคาเนื้อสัตว์ ทั้งนี้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อช่วงครึ่งหลังของปีอยู่ที่ 2.05% ส่วนทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 2.14% ซึ่งอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ 2.0-2.8%
- สมาคมผู้ค้ายานยนต์ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ของญี่ปุ่นในเดือนก.ย.ลดลง 0.8% จากปีก่อน แตะที่ 518,774 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ยังคงซบเซา หลังการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเม.ย.
- สำนักงานพัฒนาเขตเมืองของสิงคโปร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านของสิงคโปร์ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ปรับตัวลง 0.6% แตะ 208.1 ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่อง 4 ไตรมาสติดต่อกัน เนื่องจากสิงคโปร์ได้ใช้มาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีความเข้มงวดมากขึ้น