นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.54/56 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดอยู่ที่ระดับ 32.57/58 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.52-32.58 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทวิ่งอยู่ในกรอบที่ให้ไว้ 32.50-32.60 ตามแรงซื้อแรงขายจาก Flow ในตลาดหุ้นและพันธบัตร ดูแล้วแรงกดดันด้านขายค่อนข้างเยอะ ด้านบนต่ำลงเรื่อยๆ High สุดแค่ 32.58 แล้วก็ทำ New Low ถ้าเทียบกับเมื่อวานแถวๆ 32.52" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์ ตลาดยังรอตัวเลข Non Farm Pero ของสหรัฐและรายงานผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 120.20 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0728 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0828 ดอลลาร์/ยูโร
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ได้ส่งประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ไปยังสำนักพระราชวังแล้ว อยู่ในระหว่างขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมทั้งออกมาย้ำถึงการใช้อำนาจอาศัยตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวว่า ขณะนี้ได้ร่างคำสั่ง คสช.ไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปดำเนินการ
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ แต่ว่าฝ่ายบริหารถ้ามีความจำเป็นต้องมีเครื่องมืออื่นในการดูแลรักษาความสงบ ซึ่งการที่รัฐบาลจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวแทนนั้น ก็ควรต้องชี้แจงอธิบายว่าการใช้กฎหมายดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขมด และควรใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาจากการที่ประเทศญี่ปุ่นสั่งระงับเพิ่มเที่ยวบินจากไทย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่เตรียมเดินทางไปกับบริษัทนำเที่ยวโดยเที่ยวบินพิเศษที่เพิ่มเฉพาะช่วงเวลากับเที่ยวบินเหมาลำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้อาจประสบปัญหาไม่สามารถเดินทางได้
- ผู้ว่าการ ธปท.มองว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้ยังมีเสถียรภาพ ทั้งดุลชำระเงินระหว่างประเทศ อัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ สถานะของธนาคารพาณิชย์ และทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในฐานะที่มั่นคง แม้ว่าอาจยังมีปัญหาที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด แต่เชื่อว่าปีนี้ยังขยายตัวได้ดีกว่าปีก่อนที่เติบโตเพียง 0.7% โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ราว 3.8% หรือมากกว่า 3% แสดงให้เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี
- นายจาง หลี่กุน นักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาประจำคณะรัฐมนตรีจีน กล่าวแสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจจีนได้ชะลอตัวลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว และมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงความตื่นตระหนักจนเกินไป
- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นในเดือนก.พ.ร่วงลง 5.3% จากปีก่อน สู่ระดับ 817,390 คัน ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีบริโภคในปีที่แล้วเป็นเหตุให้ความต้องการหดตัวลง
- รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงระมัดระวังที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ที่มีจีนเป็นแกนนำ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่จะไม่แสดงท่าทีที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก AIIB ภายในกำหนดเส้นตายที่จีนกำหนดไว้สำหรับการเปิดรับสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งในวันนี้