พาณิชย์ พร้อมเสนอ ครม. ร่างกรอบเจรจา FTA ไทย-ตุรกี และปากีสถาน

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday July 5, 2015 12:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช,พาณิชย์ ได้เปิดเผยผลการประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าของประเทศ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและองค์กรภาคเอกชน โดยจากผลการประชุมเมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์ฯ ได้พิจารณาร่างกรอบการเจรจา FTA ไทย-ตุรกี และ ไทย-ปากีสถาน โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ปรับปรุง
ร่างกรอบการเจรจาฯ พร้อมที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนที่จะเปิดเจรจา FTA ทั้งสองฉบับ โดยจะเริ่มเจรจาในส่วนของสินค้ากันก่อน

กรอบการเจรจาฯ นี้จะเป็นแนวทางในการกำหนดขอบเขตการเจรจาจัดทำ FTA ของไทยกับทั้งสองประเทศ ซึ่งครอบคลุมในเรื่องการค้าลด/ยกเลิกภาษีศุลกากร การลดอุปสรรคทางการค้า และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าสินค้า ซึ่งคณะทำงานฯ ได้พิจารณาร่างกรอบฯ และได้ปรับเพิ่มเล็กน้อย ดังเช่นในเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้า เปิดให้สามารถเปลี่ยนแปลงกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าได้อันเนื่องมาจากการปรับแก้ไขพิกัดศุลกากรตามมาตรฐานระหว่างประเทศได้ ในเรื่องมาตรการปกป้อง ให้พิจารณาเริ่มจาก การหารือสองฝ่ายก่อนนำมาตรการฯมาใช้ เป็นต้น

การเปิดเจรจา FTA กับทั้งสองประเทศดังกล่าว ถือว่าเป็นประเทศที่สามารถเป็นประตูการค้า เพื่อกระจายสินค้าของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต โดยตุรกีเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 19 ของโลก มีประชากรราว 80 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวปีละกว่า 30 ล้านคน ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2553-2557) มูลค่าการค้าที่ไทยส่งออกไปตุรกี เฉลี่ยปีละ 1,109 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำเข้าจากตุรกีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 257 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากตุรกี ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เคมีภัณฑ์ ส่วน 4 เดือนแรกของปีนี้ไทยส่งออกมูลค่า 430.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 345 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูงเช่น เคมีภัณฑ์ 55% เส้นใยสังเคราะห์ 51% รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 42% ตุรกีจะเป็น Gate Way สินค้าไทยไปต่อได้ทั้งยุโรปเช่น กรีซ บัลแกเรีย ตะวันออกกลางเช่น ซีเรีย เลบานอน อิรัก อิหร่าน และเอเชียกลางที่อยู่รอบๆทะเลดำเช่น จอร์เจีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน

นางอภิรดี กล่าวว่าปากีสถานเป็นตลาดขนาดใหญ่ ประชากร 194 ล้านคน มากเป็นอันดับ 6 ของโลก และประชากรประมาณ 30 ล้านคนมีกำลังการซื้อสูง มีทรัพยากรที่สามารถเป็นวัตถุดิบต่อการผลิตของไทย และจะเป็น Gate Way สินค้าไทยสู่ อัฟกานิสถาน อิหร่าน เอเชียกลางเช่น ทาจิกิสถาน คีร์กีซสถาน อุซเบกิซสถาน เติร์กเมนีซสถาน โดยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2553-2557) มูลค่าการค้าที่ไทยส่งออกไปปากีสถาน เฉลี่ยปีละ 886 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้ามูลค่าเฉลี่ยปีละ 108 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วน 4 เดือนแรกของปีนี้ไทยส่งออกมูลค่า 395 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 339 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญไปปากีสถาน ได้แก่ รถยนต์/อุปกรณ์/และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เส้นใยประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ยาง สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ สัตว์น้ำแช่เย็น/แช่แข็ง/และแปรรูป น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ด้ายและเส้นใย สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สินแร่โลหะอื่นๆ หาก FTA บรรลุผลในทางปฏิบัติจะช่วยผลักดันปริมาณการค้าทั้ง 2 ฝ่ายให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,080 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2561 ได้เร็วขึ้น

อนึ่ง คณะทำงานยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าของประเทศชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และแนวทางการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ข้อเสนอแนะ ท่าทีการเจรจา รวมทั้งมาตรการรองรับและบรรเทาผลกระทบ เพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้าตามกรอบความตกลงต่างๆ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) เป็นประธานฯ และมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นเลขานุการคณะทำงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ