“การเชิญผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เข้ามาทำหน้าที่คณะกรรมการพิจารณารับรองจะทำให้ระบบการรับรองของ CAC เข้มแข็งมากขึ้นจากประโยชน์ที่จะได้จากความรู้และประสบการณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิในภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ตรงในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระบวนการรับรองของ CAC ที่จะต้องรองรับจำนวนบริษัทเข้าร่วมโครงการที่ได้เพิ่มสูงขึ้นมาก" ดร. บัณฑิต กล่าว
นอกจากนี้ ทาง CAC ได้เพิ่มข้อกำหนดให้บริษัทจัดส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการขอการรับรอง รวมถึงได้กำหนดกรอบเวลาให้บริษัทที่ยื่นประกาศเจตนารมณ์ต้องมีการดำเนินการให้ผ่านการรับรองภายใน 18 เดือนหลังการเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ หลังจากนั้นบริษัทจะต้องรอเวลาอีก 6 เดือนก่อนจะสามารถขอยื่นเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ใหม่
การประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมโครงการ CAC เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมต่อต้านคอร์รัปชันและการจ่ายสินบนของบริษัทที่เข้าร่วม ส่วนบริษัทที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการ CAC หมายถึงบริษัทที่เข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์กับโครงการ CAC และได้ผ่านกระบวนการประเมินตนเอง ที่มีการสอบทานและลงนามรับรองโดยประธานคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท หรือผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก ว่าบริษัทมีการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการทุจริตครบถ้วนตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการ CAC กำหนด ซึ่งกระบวนการรับรองของโครงการ CAC รวมถึงการชี้แจงข้อมูลและส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้กับคณะกรรมการ CAC พิจารณา ในกรณีที่คณะกรรมการมีข้อสงสัยหรือบริษัทเคยมีข่าวเกี่ยวกับการทุจริตมาก่อน
CAC เป็นโครงการที่บริษัทเอกชนเข้าร่วมโดยสมัครใจเพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจที่สะอาด ปลอดคอร์รัปชัน ล่าสุดมีจำนวนบริษัทเอกชนเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันกับ CAC แล้ว 485 บริษัท (เป็นบริษัทจดทะเบียน 280 บริษัท) ขณะที่จำนวนบริษัทที่ผ่านการรับรองเพิ่มขึ้นเป็น 122 จาก 78 บริษัทเมื่อสิ้นปี 2557