(เพิ่มเติม) สศค.คาด GDP ปีนี้โตได้ 3% รับมาตรการใหม่กระตุ้นศก.แม้มองส่งออกยังติดลบ 4%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 28, 2015 12:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ถึง 3% หากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ทำได้สำเร็จตามแผนงาน แม้จะคาดว่าการส่งออกทั้งปีนี้ยังคงติดลบราว 4% เนื่องจากช่วง 7 เดือนแรกติดลบไปแล้ว 4.7% และการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ที่ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไปราว 1 แสนคนในช่วง 1 เดือนหลังเหตุการณ์ดังกล่าว และหลังจากนั้น 2-3 เดือนอาจหายไปราว 2-3 แสนคน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ราว 0.05%

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สศค. เปิดเผยว่า มั่นใจว่าภาพรวม GDP ไทยในปีนี้จะยังคงขยายตัวได้ตามคาดการณ์ที่ 3% แม้จะมีปัจจัยลบจากเหตุการณ์ระเบิด แต่ก็มีปัจจัยเสริมจากการเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะการเติมเงินเข้าสู่ระบบประชาชนที่มีรายได้น้อยและเกษตรกรที่คาดว่าจะใช้งบประมาณสูงกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท

"ส่วนนี้จะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเร่งลงทุนในโครงการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการกระจายรายได้อีกทางหนึ่งด้วย"นายเอกนิติ กล่าว

ทั้งนี้ สศค. ได้ประเมินเบื้องต้นภายหลังเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ในช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ในช่วง 2-3 เดือนจากนี้หายไปอย่างน้อย 3 แสนราย จากประมาณการนักท่องเที่ยวในปีนี้ทั้งหมดที่ 29.9 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลกระทบตอตัวเลข GDP ของประเทศอย่างน้อยราว 0.05%

“ผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปจำนวนมหาศาลอย่างที่หลายฝ่ายกังวลแน่นอน และเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ทันช่วงไฮซีซั่นนี้ ดังนั้นจึงยังเชื่อมั่นว่าภาคการท่องเที่ยวจะยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวต่อได้"นายเอกนิติ กล่าว

สำหรับภาพรวมการส่งออกในปีนี้ ยังประเมินว่าจะติดลบราว 4% หลังจากช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมา ตัวเลขการส่งออกติดลบแล้วกว่า 4.7% ขณะที่เดือน ก.ค.58 ตัวเลขการส่งออกติดลบ 3.6% โดยต้องยอมรับว่าภาคการส่งออกยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงทั้งในด้านราคาและมูลค่า ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะ จีน ยุโรป และอาเซียน ขณะที่เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) และสหรัฐ มีทิศทางที่ดีขึ้น ก็เข้ามาช่วยสนับสนุนในส่วนนี้ได้บ้าง

อย่างไรก็ดี นายเอกนิติ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเปราะบาง เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่ลดลง ทำให้กลไกหลักที่เคยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อย่างภาคส่งออกที่เคยมีมูลค่ามากถึง 70% ของ GDP ได้รับผลกระทบไปด้วย ขณะที่การบริโภคในประเทศก็มีทิศทางชะลอตัวลง ดังนั้น การที่ภาครัฐได้มีความพยายามในการผลักดันการใช้จ่ายผ่านการลงทุนทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และการกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ