ภาวะตลาดเงินบาท: บาทเปิด 35.05 นลท.รอผลประชุม ECB ประเมินกรอบวันนี้ 35.00-35.10

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 21, 2016 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.05 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ 34.98 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่า

"บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่า หลังตลาดมองว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วง ปลายปีหรือไม่ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูวันนี้เป็นผลประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคงยังไม่มีการ เปลี่ยนแปลงในการประชุมครั้งนี้

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 35.00-35.10 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.39 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 106.49/70 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1015 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0997/1018 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0430 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและธนาคารขนาดเล็ก ทยอยแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 59 และงวด 6 เดือน
ปี 59 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่วนใหญ่มีผลประกอบการ และกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อ
และการเก็บค่าธรรมเนียม
  • ธนาคารออมสิน จะร่วมลงนามกับสถาบันการเงิน 18 แห่ง ปล่อยกู้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วง
เงิน 30,000 ล้านบาท ให้กับเอสเอ็มอี เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยออมสินจะเป็นผู้ปล่อยเงิน
กู้ทั้ง 18 แห่ง คิดอัตราดอกเบี้ย 0.1% ให้กับสถาบันการเงิน นำไปปล่อยกู้ต่อให้ผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ย 4% ระยะเวลา 7
ปี ซึ่งมีรูปแบบเหมือนโครงการซอฟท์โลนระยะแรกมีวงเงิน 100,000 ล้านบาท และระยะที่ 2 ที่ปิดโครงการไปเมื่อต้นปีวงเงิน
50,000 ล้านบาท
  • ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลเตรียมเสนอแนวทางการอำนวยความสะดวกทางด้านการเงินในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ
ภาคตะวันออก หรืออีอีซี ให้รัฐบาลพิจารณา พร้อมกับสรุปรายละเอียดการดำเนินโครงการภาพรวมภายใน 2 เดือนจากนี้ โดยเฉพาะ
การจัดทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตเสรีทางการเงิน ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินโดยใช้เงินสกุลใดก็ได้
พร้อมทั้งให้สถาบันการเงินจากต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาเพิ่มเติม หรือตั้งจุดบริการลูกค้าในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวก และจูง
ใจเอกชนให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง คาดตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 โต 3.3% ย้ำพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง
สามารถรับความผันผวนของเศรษฐกิจทั้งปัจจัยภายในและต่างประเทศ ย้ำครึ่งปีหลังจะเห็นผลจากการที่รัฐเข้าไปลงทุนในโครงการ
ขนาดใหญ่มากขึ้น ขณะที่ไอเอ็มเอฟปรับลดจีดีพีเศรษฐกิจโลกลงเหลือ 3.1% จากเหตุผลความไม่แน่นอนของ "Brexit"
  • กระทรวงการคลังคลัง กำชับรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน ห้ามยกเลิกโครงการแต่ถ้าลงทุนไม่ได้ต้องหาโปรเจกท์
ใหม่เข้ามาทดแทน เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ผลักดันเศรษฐกิจขยายตัว ตามนโยบายของรัฐบาล
  • กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วนในปี 2560 ซึ่งกำลังรวบ
รวมข้อมูลและจะสรุปได้ก่อนเดือนต.ค.2559 นี้ โดยส่วนใหญ่ยังมีการดำเนินการต่อเนื่องของปี 2559 ในโครงการรถไฟทางคู่ที่จะ
เริ่มการดำเนินแผนในระยะที่ 2 และระยะที่ 3
  • สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การเลิกจ้างแรงงาน
ในช่วงไตรมาสแรกของปียังไม่มีสัญญาณอะไร ที่ผิดปกติมาก ซึ่งตัวเลขอาจมีลดลงบ้าง แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์อัตราว่างปกติที่ 3 แสนคน
  • รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินอย่างน้อย 20 ล้านล้านเยน (1.88 แสนล้าน
ดอลลาร์) เพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด และป้องกันผลกระทบจากการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
(Brexit)
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้าน
การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ
0.7% ปิดที่ 44.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 47.17
ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็น
สินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ การ
แข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังสร้างแรงกดดันต่อสัญญาทองคำด้วย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange)
ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 13 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ระดับ 1,319.30 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.)

เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐช่วยหนุนกระแสการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ในปีนี้ โดยเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1005 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1012 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 106.86 เยน จากระดับ 106.04 เยน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ