คลังคาดพิโกไฟแนนซ์มีผลในอีก 1 เดือน เตรียมเปิดให้เจ้าหนี้นอกระบบยื่นขอประกอบธุรกิจเร็วๆ นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 5, 2016 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การบริหารงานเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโกไฟแนนซ์) นั้น อยู่ระหว่างรอประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าจะมีผลภายใน 1 เดือน หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่มีอยู่ในปัจจุบันราว 1.23 แสนล้านบาทได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ มองว่าโครงการพิโกไฟแนนซ์ถือเป็นโอกาสที่ดีของเจ้าหนี้และลูกหนี้ที่จะมีการไกล่เกลี้ยกันได้สำเร็จ และได้ข้อสรุปเรื่องมูลหนี้อย่างเป็นธรรม ซึ่งเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบในอัตราดอกเบี้ยที่สามารถรับได้ทั้งในส่วนผู้กู้และผู้ให้กู้ด้วย

อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในโครงการคือไม่เกิน 36% ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นระดับที่ผู้ปล่อยกู้สามรถอยู่ได้ ขณะที่ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากโครงการนี้ก็เชื่อว่าจะไม่มาก รวมทั้งเชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการทยอยเข้ามาจดทะเบียนเพื่อเข้าระบบที่ถูกต้องแน่นอน ส่วนที่ยังอยู่นอกระบบและทำไม่ถูกนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้กฎหมายห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่เข้มงวดกับเจ้าหนี้นอกระบบ เป็นการเอาจริง โทษรุนแรงมาก กรณีที่มีการทำผิดกฎหมายแพ่งและพาณิชย์" นายกฤษฎา กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ รวมวงเงินกู้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อรายนั้น ปัจจุบันมีบริษัทได้รับใบอนุญาตแล้ว 27 ราย และเปิดให้บริการแล้ว 19 ราย โดยปัจจุบันมียอดปล่อยสินเชื่อแล้ว 1.05 พันล้านบาท รวมทั้งสิ้น 4 หมื่นราย

นายกฤษฎา กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีวานนี้ (4 ต.ค.) ได้ให้ความเห็นชอบเรื่องการบริหารงานเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ภายใต้หลักการที่จะบริหารจัดการปัญหาหนี้นอกระบบด้านลูกหนี้และด้านเจ้าหนี้ควบคู่กันไปอย่างเป็นระบบ ครบวงจรและมีความต่อเนื่อง โดยกระทรวงการคลังจะมีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาคี ใน 5 มิติ ดังนี้

1. ดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย

1.1 ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหนี้นอกระบบเข้าร่วมไกล่เกลี่ยประนอมหนี้กับลูกหนี้ และคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมไม่เกิน 15% ต่อปี

1.2 เปิดช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อ ส่วนบุคคล (Personal Loan) สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ซึ่งเป็นสินเชื่อรายย่อยประเภทใหม่ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง โดยเจ้าหนี้นอกระบบที่จะประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และมีคุณสมบัติอื่นเป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขอื่นของกระทรวงการคลัง

1.3 เร่งรัดการบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. .... ซึ่งจะมีการเพิ่มโทษสำหรับเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดให้สูงขึ้น จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือจำคุก ไม่เกิน 1 ปี เป็นปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะมีการบังคับใช้กฎหมาย กับผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด

2. เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ

2.1 กำหนดให้มีสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้ประชาชนรายย่อยที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายฉุกเฉินสามารถกู้ยืมเงินในระบบได้ง่ายและรวดเร็ว ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย คิดอัตราดอกเบี้ยรวมค่าบริการและค่าธรรมเนียมไม่เกิน 36% ต่อปี โดยให้กู้ยืมทั้งแบบมีหรือไม่มีหลักประกัน

2.2 จะมีการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ภายในธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนกว่าปกติ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแก่ประชาชนโดยเฉพาะ

3. ลดภาระหนี้นอกระบบโดยการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้

จะมีจุดให้คำปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบ ณ สาขาของธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ เพื่อช่วยดูแลให้คำปรึกษาแก่ประชาชนในเบื้องต้น และช่วยนำลูกหนี้นอกระบบเข้าสู่กลไกการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ของคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบใน 77 จังหวัด เพื่อให้เกิดมูลหนี้ที่เป็นธรรม ก่อนที่ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.จะได้พิจารณารีไฟแนนซ์สินเชื่อเข้าสู่ในระบบให้ตามศักยภาพของลูกหนี้แต่ละรายต่อไป

4. เพิ่มศักยภาพของลูกหนี้นอกระบบ

ลูกหนี้นอกระบบที่ไม่มีศักยภาพในการชำระหนี้หรือมีความสามารถในการชำระหนี้ต่ำ จะได้รับการสนับสนุนฟื้นฟูอาชีพผ่านกลไกของคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการหารายได้ของลูกหนี้นอกระบบใน 77 จังหวัด โดยจะได้รับการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม ปลูกฝังความรู้และวินัยทางการเงิน รวมถึงฝึกอบรมอาชีพหรือทักษะฝีมือแรงงานอย่างเข้มข้น ตลอดจนมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้กลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก

5. สนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรการเงินชุมชนที่เกี่ยวข้อง

จะมีการส่งเสริมการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบผ่านเครือข่ายองค์กรการเงินชุมชนต่างๆ เผยแพร่ความรู้และทักษะเกี่ยวกับการบริหารจัดการทางการเงินส่วนบุคคลแก่ประชาชนฐานรากประชาสัมพันธ์ช่องทางที่ประชาชนจะขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบจากหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงสร้างและพัฒนาฐานข้อมูลเกี่ยวกับหนี้นอกระบบของประชาชนต่อไป

กระทรวงการคลังเล็งเห็นว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบดังกล่าวจะสามารถลดปัญหาเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ลูกหนี้นอกระบบได้รับการบรรเทาความเดือดร้อน และเพิ่มคุณภาพชีวิตรวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการการทางการเงินโดยง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งรู้จักบริหารจัดการทางการเงิน และตระหนักถึงภัยของหนี้นอกระบบและในส่วนของหน่วยงานภาครัฐจะมีการประสานการทำงานที่ดี เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องหนี้นอกระบบให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนภาครัฐจะมีฐานข้อมูลด้านหนี้นอกระบบเพื่อใช้ประโยชน์เชิงนโยบายต่อไป

ทั้งนี้ ลูกหนี้นอกระบบสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจากภาครัฐ ณ จุดให้คำปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งมีอยู่ ณ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามทางสายด่วนธนาคารออมสิน โทร. 1115 และสายด่วน ธ.ก.ส. โทร. 0 2555 0555 ทั้งนี้ โดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุดเนื่องจากไม่ถือเป็นโครงการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ

สำหรับเจ้าหนี้นอกระบบที่ประสงค์จะไกล่เกลี่ยประนอมหนี้กับลูกหนี้ สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ ณ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ในเขตกรุงเทพฯ หรือสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด ในทุกจังหวัด

นอกจากนี้ ในส่วนของสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ กระทรวงการคลังจะเปิดให้เจ้าหนี้นอกระบบหรือผู้ที่สนใจ ยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจได้ในเร็วๆ นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ