ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.65/66 กลับมาแข็งค่าหลังดอลล์อ่อน ตลาดผิดหวังตัวเลขศก.สหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 2, 2016 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.65/66 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.68 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อคืนนี้แย่กว่า คาดการณ์

"บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้แย่กว่าที่ คาดการณ์ ทำให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่ตลาดจับตามองคืนนี้เป็นการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบวันนี้ไว้ระหว่าง 35.60-35.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 113.68/76 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 114.21 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0668/0673 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0630 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.7010 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย แนะนำลูกค้าของธนาคารที่มีธุรกิจการค้ากับมาเลเซียให้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ริงกิต
ด้วยการซื้อเงินตราล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด) เพื่อล็อกต้นทุนในภาวะที่ค่าเงินริงกิตผันผวน แต่ลูกค้าจำเป็นต้องมีธุรกรรมรองรับให้เห็น
ชัดเจน และไม่แนะนำให้เก็งกำไรค่าเงินในช่วงนี้
  • รมว.คลัง จะสรุปการกู้เงินด้วยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ขายให้นักลงทุนรายย่อยวงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อนำ
เงินมาลงทุนของจังหวัดและกองทุนหมู่บ้านกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าให้ได้ภายในเดือน มกราคม 2560 ซึ่งจะมีผลทำให้เศรษฐกิจปีหน้า
ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นที่ประมาณการไว้เดิม 3.4% ซึ่งการกู้เงินนี้เป็นก้อนใหม่ที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้มีอยู่ในแผนการก่อหนี้งบประมาณ 2560 และ
หากเงินเหลือก็จะพิจารณาให้กองทุนหมู่บ้านนำไปใช้ลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเพิ่มเติม
  • เวิลด์อีโคโนมิกฟอรั่ม (WEF) เปิดเผยรายงานการอำนวยความสะดวกทางการค้าทั่วโลกปีล่าสุดว่า ประเทศไทยขยับ
อันดับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 63 จากเดิมที่ 72 ในรายงานเมื่อ 2 ปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 9 อันดับ ในรายงาน 136 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจัดทำ
ขึ้นทุกๆ 2 ปี
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่
ระดับ 268,000 ราย ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ย. นับเป็นสัปดาห์ที่ 91 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000
ราย
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 0.5%
แตะ 1.173 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 53.2 ในเดือน
พ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.9 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ที่ 52.5
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่อง
จากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ
114.02 เยน จากระดับ 114.18 เยน ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0657 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ
1.0596 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นและตลาดน้ำมัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อน
ที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) โดยสัญญาน้ำมันปรับตัวขึ้นติดต่อกัน
2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
น้ำมัน ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยข้อมูลดัง
กล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่ม
ขึ้น 173,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ