ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.65/67 อ่อนค่าตามยูโร ขานรับ ECB ขยายเวลา QE เพิ่มตามคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 9, 2016 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.65/68 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.60 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากผลของการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวานนี้ ที่มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไป ซึ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีแรง ซื้อกลับคืน

"บาทอ่อนค่าลง จากผลที่เมื่อวานนี้ ECB มีมติขยายเวลาการทำ QE จึงทำให้เงินยูโรร่วงลงไป และดอลลาร์สหรัฐฯ เด้งขึ้นมา และดอลลาร์สหรัฐมีแรงซื้อคืน" นักบริหารเงิน ระบุ

ขณะเดียวกันตลาดรอติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวัน ที่ 12-13 ธ.ค.นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างคาดว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่า มองกรอบไว้ที่ 35.60-35.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.45/46 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.47 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0610/0612 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0799 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6170 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานข้อมูลธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจล่าสุดเดือน
ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามูลค่าเงินสดที่หมุนเวียนระบบเศรษฐกิจมีทั้งสิ้น 1,532,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
77,422 ล้านบาท หรือเติบโต 5.32% และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 26,410 ล้านบาท หรือเติบโต 1.75% ภายในเดือนเดียว
มูลค่าเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก จากปรากฏการณ์ประชาชนต้องการเก็บสะสมธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ในรัชกาลที่ 9
  • กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สั่งการและมอบนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์และ
สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) พัฒนาโปรแกรมรักษาความปลอดภัยสำหรับธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทาง
อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา พฤติกรรมการทำธุรกรรมทางการเงินของคนไทยนิยมใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ซึ่งจาก
ตัวเลขปี 2558 มีปริมาณการทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เนต ขยายตัวสูงถึง 8% และโมบาย แบงกิ้ง ขยายตัวสูงถึง 127% จากปี
2557 เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลในการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ เนชั่นแนล อี-เพย์เมนท์ อีกด้วย
  • ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
(QE) ออกไปอีก 9 เดือน โดยให้สิ้นสุดในเดือนธ.ค.2017 จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.2017 และพร้อมจะพิจารณาเพิ่ม
วงเงิน และระยะเวลาในการดำเนินมาตรการ QE หากมีความจำเป็น
  • นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า การตัดสินใจขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตร
ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะช่วยหนุนเศรษฐกิจยูโรโซนได้อย่างมาก ถึงแม้ ECB จะลดวงเงิน QE ตั้งแต่เดือนเม.
ย.ปีหน้า
  • สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากธนาคาร
กลางยุโรป (ECB) ที่มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก 9 เดือนในการ
ประชุมเมื่อวานนี้ โดยเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0611 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0752 ดอลลาร์
สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 114.10 เยน จากระดับ 113.95 เยน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบยูโร
หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก
9 เดือน ในการประชุมเมื่อวานนี้
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จาก
มหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ ขณะที่ผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรก ในปีนี้ และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี

  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่า
เชื่อถือของอิตาลี สู่ระดับ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" จากการที่บริษัทมีความวิตกว่าปัจจัยการเมืองจะส่งผลกระทบทำให้การ
ปฏิรูปเศรษฐกิจและการคลังต้องล่าช้าออกไป รวมทั้งมีความเสี่ยงที่การปรับลดหนี้สินของประเทศจะถูกเลื่อนออกไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ