น.ส.วิบูลย์รักษ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารเงินช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารเงินช่วยเหลือฯ ได้พิจารณาอนุมัติการให้ความช่วยเหลือโครงการที่มีผู้ยื่นเสนอขอรับความช่วยเหลือในปีงบประมาณ 2560 จำนวนทั้งสิ้น 8 โครงการ โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ทั้งในกรอบของเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA)และความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) และยังมีโครงการที่ประสงค์จะเสริมสร้างศักยภาพเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด การแข่งขันทางการค้า และการใช้สิทธิประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้า
โดยโครงการที่ได้รับการอนุมัติช่วยเหลือทั้ง 8 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรมระดับ 3 ดาว ในเขตจังหวัดชายแดนไทย-ลาว (จังหวัดนครพนม สกลนคร และมุกดาหาร) 2) โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องสำอางสมุนไพรไทยเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) และสากล 3) โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ระยะที่ 3
4) โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตโคเนื้อ สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลางโพนยางคำ จำกัด สำหรับการแข่งขันในเขตการค้าเสรี (FTA) และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) 5) โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธุรกิจอุตสาหกรรม OTOP ประเภทกลุ่มดาวเด่นสู่สากลในจังหวัดนนทบุรี 6) โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและพัฒนาระบบบริหารจัดการของสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด ให้พร้อมสู่สากล 7) โครงการพัฒนานวัตกรรมการบริหารคุณภาพผลิตภัณฑ์นม และ 8) โครงการเสริมสร้างศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดสินค้ากระเทียมไทย หอมแดงไทยและหอมหัวใหญ่ไทยปลอดโรค ภายใต้ความตกลงการเปิดเสรีทางการค้า
"กองทุน FTA มั่นใจว่าหลังจากที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ จะช่วยให้กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง สามารถยกระดับการทำธุรกิจ พัฒนาการทำธุรกิจ ขยายธุรกิจ และมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น และต่อสู้กับการเปิดเสรีทางการค้าได้อย่างแน่นอน" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารเงินช่วยเหลือฯ จะออกประกาศรับสมัครโครงการเพื่อขอรับความช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ประจำปีงบประมาณ 2561 ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ที่เห็นว่าได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า หรือต้องการที่จะปรับปรุงและเพิ่มขีดความสามารถในด้านการตลาด เพื่อแข่งขันกับการเปิดเสรีทางการค้า ก็สามารถจัดทำโครงการเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้
สำหรับผลงานของกองทุน FTA ตั้งแต่ปี 2550-2559 มีโครงการที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้วจำนวน 49 โครงการ แบ่งเป็น สินค้าเกษตร จำนวน 27 โครงการ สินค้าอุตสาหกรรม จำนวน 15 โครงการ และสินค้าบริการ จำนวน 7 โครงการ โดยใช้เงินงบประมาณประจำปีของกรมการค้าต่างประเทศไปจำนวน 385 ล้านบาท
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตัวอย่างโครงการช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวฯ ที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถเห็นผลความสำเร็จในการช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ประกอบการ ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าได้และมีความเป็นอยู่ที่ดี อาทิ โครงการนำร่องการเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิตและการตลาดของสินค้าไม้ดอกไทยในกลุ่มปทุมมา กระเจียว และกล้วยไม้ในสกุลนางอั้ว พบว่า เกษตรกรสามารถผลิตปทุมมาและกระเจียวนอกฤดูในเชิงการค้าระหว่างเดือนสิงหาคมถึงมีนาคม และส่งไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ได้มากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น
รวมทั้งโครงการเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดของสินค้าหัวพันธุ์กระเทียมไทย หอมแดงไทย และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ไทยปลอดโรคภายใต้ความตกลงการเปิดเสรีทางการค้า พบว่าเกษตรกรได้นำเทคนิคการพัฒนาหัวพันธุ์ปลอดโรคมาใช้ และมีวิธีการตรวจสอบดินที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนและลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้มีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ได้ค้นพบวิธีการทำกระเทียมดำ ซึ่งมีสรรพคุณในการลดคอเรสเตอรอล และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาต่อยอดสินค้ากระเทียมให้มีศักยภาพสูงขึ้น พร้อมจำหน่ายตลาดภายในประเทศ และเพื่อลดสัดส่วนการนำเข้าหัวพันธุ์กระเทียมจากต่างประเทศได้ต่อไป