ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.99 แกว่งกรอบแคบ ไร้ปัจจัยหนุนชัดเจน มองกรอบพรุ่งนี้ 34.95-35.05

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 16, 2017 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.01 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.99-35.01 บาท/ดอลลาร์ โดย ตลาดรอดูปัจจัยใหม่ที่ชัดเจน

"บาทเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ มีทั้งแรงซื้อและแรงขายดอลลาร์จากนักลงทุนต่างชาติพอๆ กัน แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ ชัดเจนเข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.95-35.05 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางบาทคงต้องรอดูปัจจัยจากต่างประเทศที่จะเข้ามาวันพรุ่งนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจ้ยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 114.02 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.0634 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0618 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,576.05 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด, +0.17% มูลค่าการซื้อขาย 49,592.48 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,438.12 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดรายได้รวมจากการท่องเที่ยวในปี 60 จะอยู่ที่ 2.71 ล้านล้านบาท ขยาย
ตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 8% จาก 2.51 ล้านล้านบาทในปี 59
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศทั่วโลก 34
ราย ซึ่งเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (Honorary Investment Advisor:HIA) มาร่วมประชุม เพื่อรับฟังความเห็นและ
ข้อเสนอจากผู้นำภาคธุรกิจซึ่งมีประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจในเวทีโลก ซึ่งเชื่อว่าความเห็นของบรรดาซีอีโอจะมีส่วนช่วยสร้าง
อนาคตของประเทศไทยไปสู่ "ประเทศไทย 4.0" ได้อย่างแน่นอน
  • กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนได้ปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลงเป็นจำนวนมากในเดือนธ.ค.
เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ
  • นายหยี่ กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า จีนควรรักษานโยบายการเงินให้มีเสถียรภาพและ
เป็นกลาง หมายความว่า ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป
  • นักวิเคราะห์จากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ด) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน

ประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้จะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นทั่ว

โลกดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรผ่านโครงการซื้อขายหลักทรัพย์หรือพันธบัตรของทางการ (open market operation) โดยปรับขึ้น

0.10% ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่คาดว่าเป็นการดำเนินนโยบายการเงินให้อยู่ในระดับกึ่งกลางยิ่งขึ้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน

ประเทศ(GDP) ของจีนได้ขยายตัว 6.7% เทียบรายปีเมื่อปี 2559 เติบโตต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ แต่ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย

ของรัฐบาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ