นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.38 บาท/ดอลลาร์ จาก ช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.36 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทเป็นช่วงพักตัว และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมๆ แต่อาจสูงขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยในประเทศวันนี้คงต้อง ติดตามการรายงานผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ เพราะตลาดค่อนข้างกังวลปัญหา NPL ในระบบธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่ม สูงขึ้น
"เมื่อวานมีการรายงานผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ คนก็กังวลเรื่อง NPL ที่เพิ่มขึ้น และมีการขายหุ้น กลุ่มธนาคาร ซึ่งก็ถ่วงตลาด ทำให้ตลาดหุ้นร่วงลง ซึ่งถ้ายังมีความกังวลอย่างนี้ต่ออีก ก็จะเป็นการชะลอไม่ให้บาทแข็งค่า" นักบริหาร เงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.25-34.40 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.3700 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (19 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.44608% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (19 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.54829%
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.94 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0711 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0727 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.3080 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ประจำประเทศไทย ยังคงคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 60 จะขยายตัว 3.5% และ
3.6% ในปีถัดไป เนื่องจากการขยายตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลัก การบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวต่อ
เนื่อง ตลอดจนการดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ราคาข้าวในตลาดโลกที่ค่อยๆปรับขึ้นจะเป็น
อีกหนึ่งกลไกที่ช่วยเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
- นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน "การปฏิรูปภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบ
ธุรกิจ" จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ว่า ในเร็ว ๆ นี้ ธนาคารโลกจะประเมินความยากง่ายใน
การประกอบธุรกิจของไทย ซึ่งถือว่าเป็นตัวประเมินชี้วัดที่มีความสำคัญมากเนื่องจากมีนัยทางการเมืองน้อยที่สุด และผลจากการ
ประเมินจะมีส่วนช่วยต่อการตัดสินการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ หากผลประเมินออกมาดี การตัดสินใจของนักลงทุนจะง่ายขึ้น ซึ่งไทย
ตั้งเป้าหมายว่าในปี 63 ไทยจะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน แซงหน้ามาเลเซียให้ได้ จากปัจจุบันที่อยู่อันดับ 46 จาก 190
ประเทศ หรือเป็นอันดับ 9 ของเอเชีย และอันดับ 3 ของอาเซียน
- น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การลงทุนโครงสร้างด้านคมนาคมขนส่ง วง
เงิน 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการลงทุนในระยะเวลา 8 ปี จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพิ่มขึ้น
อีกปีละ 0.5% หรือจีดีพีมีการเติบโตได้เต็มศักยภาพไม่ต่ำกว่าปีละ 4% และทำให้ประเทศไทยหลุดจากกับดักประเทศรายได้ขนาดกลาง
ได้เร็วขึ้น เพราะจากการประมาณของกระทรวงการคลัง พบว่า หากปล่อยให้เศรษฐกิจขยายตัวระดับใกล้ 3.5-4% เช่นปัจจุบัน จะ
ต้องใช้เวลาอีกถึง 15 ปี ประเทศไทยถึงจะหลุดจากกับดักประเทศรายได้ขนาดกลางได้ ทำให้ที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งปฏิรูปโครงสร้าง
ทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศไทยหลุดจากประเทศไทยรายได้ปานกลางได้เร็วขึ้น
- การท่องเที่ยวฯ เร่งหารือคมนาคม พัฒนาโครงสร้างทางถนน-น้ำ-ราง หลัง 'เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม' จัดอันดับ
แข่งขันด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวประจำปี 2560 ไทยได้แค่ 3.1 คะแนน เทียบเท่าเวียดนาม เป็นรองสิงคโปร์-มาเลย์
และอินโดฯ
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมี
การขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางในเดือนมี.ค. ขณะที่ภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานเพิ่มแรงกดดันต่อการขยายตัวของค่าแรง ส่วน
ภาคการผลิตยังคงขยายตัวในอัตราเล็กน้อยและปานกลาง และการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีความแตกต่างกัน
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.)
หลังร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สืบเนื่องจากแรงกดดันของตัวเลขสร้างบ้านของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด
การณ์ รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างสกุลเงินเยนกันมาก
ขึ้น Ffpดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 108.72 เยน จากระดับ 108.550 เยน ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สหรัฐ ที่ระดับ 1.0721 ดอลลาร์จ กระดับ 1.0729 ดอลลาร์
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงิน
ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากสถาการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและความไม่แน่นอน
ด้านการเมืองก่อนการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต้องการถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
- นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ตลาดโลกสามารถรับมือกับการปรับ
ขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ดี โดยไม่ได้เกิดความโกลาหลร้ายแรง ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจในต่างประเทศมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น และปัจจัย
เสี่ยงทั้งหลายได้อ่อนแรงลงบ้างแล้ว พร้อมมองว่าในอนาคตเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศอื่นๆ อาจดำเนินไปในทิศทางที่สอดคล้องกันยิ่ง
ขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปและจีนที่ส่งสัญญาณในทิศทางที่ดี ขณะที่การลดขนาดการผ่อนคลายทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปก็ดู
เอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจสหรัฐด้วย
- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนี
การผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและ
ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.
- นักลงทุนยังจับตาการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศสในวันที่ 23 เม.ย.นี้ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวใน
คาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด หลังจากนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนญี่ปุ่น ได้ออกมาประณาม
เกาหลีเหนือว่าเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดและเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในเอเชีย พร้อมให้คำมั่นว่าสหรัฐจะตอบโต้ด้วยมาตรการทาง
ทหารที่รุนแรงและมีประสิทธิภาพ หากประเทศพันธมิตรถูกโจมตี
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--