กฟผ.เร่งปรับการจ่ายไฟช่วยเสริมภาคใต้ เหตุ JDA–A18 ขัดข้องหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ คาดซ่อม 3 วัน

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday June 25, 2017 09:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้รับแจ้งจาก บมจ. ปตท.(PTT) ว่า เกิดเหตุขัดข้องทำให้จำเป็นต้องหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง JDA–A18 ส่งผลให้ โรงไฟฟ้าจะนะ เครื่องที่ 1 ขนาดกำลังผลิต 710 เมกะวัตต์ ต้องปรับเปลี่ยนไปใช้น้ำมันดีเซลแทน และต้องหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะนะ เครื่องที่ 2 ขนาดกำลังผลิต 766 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้ใช้น้ำมันดีเซลในการเดินเครื่องแทนก๊าซธรรมชาติได้ ส่งผลให้ กฟผ.ต้องเร่งปรับแผนการจ่ายไฟ เพื่อให้ประชาชน ภาคการท่องเที่ยว และธุรกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ที่ 2,350 เมกะวัตต์

เบื้องต้น เมื่อคืนที่ผ่านมาในช่วงเวลา 18.00 – 22.00 น. จ่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าจะนะ เครื่องที่ 1 ซึ่งเมื่อปรับไปใช้น้ำมันดีเซลจะจ่ายไฟได้สูงสุด 650 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือได้ประสานซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียจำนวน 300 เมกะวัตต์ รวมทั้งประสานให้โรงไฟฟ้าขนอมเดินเครื่องเพิ่มเป็น 920 เมกะวัตต์ เพื่อจ่ายไฟมาช่วยเสริมระบบอีกส่วนหนึ่ง

นอกจากนั้น ได้สั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนรัชชประภา เขื่อนบางลาง รวมถึงเพิ่มการส่งไฟฟ้าจากภาคกลาง 200 – 300 เมกะวัตต์ มาช่วยอีกส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ หากภาคใต้ไม่มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงกว่าปัจจุบันหรือมีเหตุการณ์อื่นมากระทบเพิ่มอีก เชื่อว่าจะสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ ซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 2,350 เมกะวัตต์ ได้อย่างเพียงพอ

"เหตุโรงไฟฟ้าจะนะหยุดจ่ายไฟ เหตุจากแหล่งก๊าซ JDA–A18 ขัดข้อง เบื้องต้นประสาน ปตท.คาดว่าใช้เวลาซ่อมประมาณ 3 วัน อย่างไรก็ตาม ได้ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในภาคใต้ช่วยกันประหยัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่หยุดดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย" โฆษก กฟผ.กล่าว

พร้อมระบุว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุขัดข้องหรือหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติ กฟผ.จำเป็นต้องหยุดเดินครื่องโรงไฟฟ้าจะนะบางส่วน หรือหากสายส่งไฟฟ้าที่เชื่อมโยงระหว่างภาคกลางกับภาคใต้เกิดขัดข้อง จะทำให้กระทบกับการจ่ายไฟฟ้าของภาคใต้ ดังนั้น ภาคใต้จึงควรต้องมีแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงและช่วยให้ระบบไฟฟ้าภาคใต้มีความมั่นคงเพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ