พาณิชย์ผลักดันไทยขยายการค้า-การลงทุน ใช้ประโยชน์จากนโยบาย One Belt One Road ของจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday June 25, 2017 18:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นโยบาย One Belt One Road เป็นนโยบายที่คลอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การเมือง การท่องเที่ยว พลังงานและวัฒนธรรม สำหรับด้านโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลจีน ได้จัดทำเส้นทาง One Belt One Road ประกอบด้วย Silk Road Economic Belt (เส้นทางบก) เริ่มต้นจากเมืองซีอานไปสิ้นสุดที่เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเส้นทาง 21 Maritime Silk Road (เส้นทางทะเล) ซึ่งผ่านภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแต่ละเมืองของประเทศจีนที่อยู่ในเส้นทาง อาทิ กว่างเจา ฝูเจี้ยน เฉิงตู ฉงชิ่ง เจิ้งโจว ซีอาน หลานโจว ต่างมีแผนปฏิบัติการรองรับ เพื่อให้แต่ละเมืองเป็นศูนย์กลางในการขยายการค้าไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้

ดังนั้นการใช้ประโยชน์ของประเทศไทย ควรมุ่งไปที่การขยายตลาดสินค้าไปตามเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทาง One Belt One Road และใช้ศูนย์กลางโลจิสติกส์ของประเทศจีนเป็นตัวกลางในการกระจายสินค้าไทยไปยังภูมิภาคอื่นๆ เช่น รัสเซีย เอเชียกลาง และยุโรป

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยสามารถเชื่อมต่อโดยใช้ประโยชน์จากเส้นทางสาย R3 ไม่ว่าจะเป็น R3A หรือ R3B โดยเฉพาะเส้นทางสาย R3 ที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศจีน และสามารถเชื่อมโยงกับเส้นทาง One Belt One Road ได้ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังสามารถใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) และ CLMVT Forum ในการผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศจีน และโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ เพื่อใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบด้านที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคอาเซียน

"กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายขยายตลาดสินค้าไปตามเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทาง One Belt One Road และใช้ศูนย์กลางโลจิสติกส์ของประเทศจีนเป็นตัวกลางในการกระจายสินค้าไทยไปยังภูมิภาคอื่นๆ เช่นรัสเซีย เอเชียกลาง และยุโรป" รมว.พาณิชย์ระบุ

นโยบาย One Belt One Road หรือชื่อเรียกในปัจจุบัน คือ Belt and Road Initiative ซึ่งริเริ่มโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปี พ.ศ.2556 (ค.ศ.2013) และได้ประกาศนโยบายดังกล่าวในขณะเดินทางเยือนประเทศคาซัคสถาน และประเทศอินโดนีเซีย นโยบาย One Belt One Road เป็นนโยบายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ของประเทศจีน (2016 - 2020) มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางถนน ราง และท่าเรือ ให้เชื่อมต่อทั้งประเทศ อันจะเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างสมดุล ซึ่งมุ่งที่จะกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำระหว่างพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกกับพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงระหว่างประเทศจีนกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศคู่ค้าเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา รวมกว่า 60 ประเทศ โดยมีภูมิภาคเอเชียกลางเป็นภูมิภาคเชื่อมกลาง มีหลักความร่วมมือพื้นฐานสำคัญ 5 ประการ ได้แก่

1.การประสานนโยบายร่วมกัน (Policy coordination) 2.การเชื่อมโยงสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility connectivity) 3.การไม่กีดกันทางการค้า (Unimpeded trade) 4.การรวมกลุ่มทางด้านการเงิน (Financial integration) และ 5.การแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างประชาชนของประเทศต่างๆ (Sharing of ideas among the people) นโยบายฯ เป็นการสนับสนุนนโยบายด้านการต่างประเทศของประเทศจีนในการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้ากับต่างประเทศ

รมว.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกันหารือกับภาคเอกชนของไทยในการรองรับนโยบาย One Belt One Road เพื่อร่วมกันบูรณาการกับภาคเอกชน มีแนวทางในการส่งเสริมให้ไทยเข้าไปขยายตลาดสินค้ายังเมืองสำคัญที่อยู่ในเส้นทาง One Belt One Road รวมทั้งเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเมืองที่เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของประเทศจีน จัดทำเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลการค้าเชิงลึก รวมถึงศักยภาพและโอกาสทางการค้ากับเมืองสำคัญและประเทศต่างๆ ที่อยู่ในแนวเส้นทาง One Belt One Road

รวมทั้งควรให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในประเทศจีน เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการไทยเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าและการลงทุนจากนโยบายดังกล่าวในประเทศจีน ผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จากนโยบาย One Belt One Road ผ่านแผนงาน GMS กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง และ CLMVT Forum ผลการประชุมร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับกระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ