สนข.คาดชงร่างกฎหมายระบบตั๋วร่วมให้ครม.พิจารณาอนุมัติได้ 29 ส.ค.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 21, 2017 17:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ( สนข.) เปิดเผยภายหลังเปิดการสัมมนารับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมว่า ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ สนข.เตรียมเสนอรายละเอียดโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (บัตรแมงมุม) ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ หลังจากนั้นในวันที่ 31 ส.ค.60 จะมีการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สนข. กระทรวงคมนาคม กับบริษัทเอกชนผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า ประกอบด้วย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC), บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์

สำหรับร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยอยู่ในขั้นตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งวันนี้มีผู้เข้าร่วมสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการภาคเอกชน นักวิชาการ และองค์กรอิสระ รวมทั้งสื่อมวลชนแขนงต่างๆ จำนวน 300 คน จากนั้น สนข.จะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปประกอบการจัดทำรายงานผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวอย่างรอบคอบและเป็นระบบ

การจัดทำระบบตั๋วร่วมเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และต้องการให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทาง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเพิ่มศักยภาพของระบบขนส่งมวลชนด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผ่านระบบตั๋วร่วม เป็นการอำนวยประโยชน์ทั้งแก่ภาครัฐ ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้ใช้บริการทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งนี้การจัดทำระบบตั๋วร่วมต้องอาศัยกลไกด้านกฎหมายในการกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงาน และขอบเขตความร่วมมือการให้บริการ การมอบอำนาจหน้าที่ และกำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ การดำเนินงานที่มีความชัดเจน รวมถึงการจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ระบบตั๋วร่วมและระบบขนส่งในประเทศไทย

อนึ่ง สนข.ได้ดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing System) ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ค.55 เพื่อจัดทำนโยบายกำหนดมาตรการ/มาตรฐานระบบตั๋วร่วม ดำเนินการจัดหาผู้พัฒนาระบบตั๋วร่วมและจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House: CCH) และการกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้พัฒนาระบบ รวมทั้งการดำเนินงานอื่นๆ ที่เป็นการสนับสนุนการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมให้ประสบความสำเร็จ เป็นการเพิ่มศักยภาพการให้บริการของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในภาพรวม ให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางและเชื่อมต่อระหว่างระบบรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร และทางพิเศษ

สำหรับร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม จะมีการรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนและมีความเป็นรูปธรรมในด้านต่าง ๆ ได้แก่

1.โครงสร้างองค์กรที่มีหน่วยงานรับผิดชอบงานในระดับนโยบาย ระดับกำกับดูแล และระดับปฏิบัติการ ที่มีอำนาจหน้าที่ชัดเจน และสามารถดำเนินการด้านระบบตั๋วร่วมโดยตรง

2.มีหน่วยงานกำหนดมาตรการ/มาตรฐาน หลักเกณฑ์ วิธีการเชื่อมต่อ เพื่อให้การใช้งาน และการให้บริการระบบตั๋วร่วมมีมาตรฐานเดียวกัน และมีหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม รวมถึงกำหนดกรอบโครงสร้างอัตรา ค่าโดยสารร่วม

3.มีหน่วยงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วมเพื่อให้การให้บริการระบบตั๋วร่วมของผู้ประกอบการระบบขนส่งสาธารณะมีมาตรฐานเดียวกัน

4.มีกองทุนบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมซึ่งเป็นเครื่องมือในการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาระบบตั๋วร่วม และ/หรือระบบขนส่งสาธารณะ โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณภาครัฐ

5.ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยใช้บัตรโดยสารเพียงใบเดียว และได้รับส่วนลดค่าเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบจากการใช้ตั๋วร่วม รวมถึงการได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ