(เพิ่มเติม) พาณิชย์ เผยส่งออก ก.ค.60 ขยายตัว 10.5% นำเข้าขยายตัว 18.5% ขาดดุล 188 ล้านดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 23, 2017 13:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ก.ค.60 โดยการส่งออก มีมูลค่า 18,852 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 10.5% จากตลาดคาดโต 12% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 19,040 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 18.5% ส่งผลให้ในเดือน ก.ค.60 ขาดดุล 188 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าครั้งแรกนับตั้งแต่เม.ย.58 หรือในรอบกว่า 2 ปี

ทั้งนี้ในเดือน ก.ค.ที่มีการขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนนั้น เป็นผลจากการเก็งกำไรทองคำเป็นหลัก เนื่องจากสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอน นักลงทุนเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคง ซึ่งมองว่าการขาดดุลการค้าจะยังเกิดขึ้นได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่หากหักทองคำออกไปดุลการค้าในเดือนก.ค.ยังคงเกินดุลที่ 1,087 ล้านดอลลาร์

สำหรับการส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกของปี 60 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 132,399 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 8.2% สูงสุดในรอบ 6 ปี ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 125,616 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 15.5% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 6,783 ล้านเหรียญสรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่าการส่งออกทั้งปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5% และได้ปรับเพิ่มประมาณการส่งออกใหม่สำหรับปีนี้เป็น 6-6.5% และยังมั่นใจว่าผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าจะเป็นปัจจัยระยะสั้นเท่านั้น แต่ผู้ส่งออกก็ควรเตรียมตัวรองรับความเสี่ยงต่างๆ ไว้ด้วย

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนก.ค.60 ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยการส่งออกยังคงขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะตลาดจีน ตะวันออกกลาง CLMV อาเซียน9 และสหรัฐฯ ซึ่งการส่งออกไปตลาดหลัก ขยายตัวถึง 9.8% ตลาดศักยภาพสูง ขยายตัว 15.4% และตลาดศักยภาพรอง ขยายตัว 9.1%

การส่งออกขยายตัวระดับสูงในทุกกลุ่มสินค้า ซึ่งกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ทั้งในด้านราคาและปริมาณ อาทิ ข้าว ผักผลไม้สดแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป และน้ำตาลทราย ในขณะที่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยเฉพาะรถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง

สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าในแถบเอเชีย ประกอบกับแนวโน้มสินค้าอุตสาหกรรมหลายรายการสามารถกลับมาขยายตัวได้ในระดับสูง โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง รวมถึงการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกยางพารา และน้ำตาลทราย ที่มีอัตราการขยายตัวจากทั้งปริมาณและราคา

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงเฝ้าระวังและติดตามปัจจัยในระดับมหภาคอย่างใกล้ชิด เช่น นโยบายการค้าของสหรัฐฯ นโยบายดอกเบี้ย และมาตรการ QE จากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งจุดเปราะบางในภูมิภาคต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และความไม่มีเสถียรภาพในด้านต่างๆ

"ปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม แต่คาดว่าไม่น่าจะส่งผลต่อมูลค่าการส่งออกอย่างมีนัยสำคัญ" น.ส.พิมพ์ชนกระบุ

ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวว่า จากทิศทางการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาปรับเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 6% และมีโอกาสที่จะโตได้ถึง 6.5%

"ในส่วนสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เราคิดว่าจะได้เกิน 5% จึงได้ทบทวนประมาณการตัวเลขส่งออกของ สนค. โดยปรับขึ้นมาเป็น 5-6% ที่จริงอาจจะได้ถึง 6.5% ด้วยซ้ำ เพื่อไปให้ถึงได้ อย่างน้อย 6% น่าจะไปได้" น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว

อย่างไรก็ดี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ จะเดินทางมามอบนโยบายที่กระทรวงพาณิชย์ในวันจันทร์ 28 ส.ค.นี้ ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีการสั่งการหรือมอบนโยบายให้มีการปรับเป้าหมายการส่งออกปีนี้เพิ่มอีกหรือไม่

ในขณะที่แนวโน้มการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิต และสินค้าทุนในส่วนของเครื่องจักรยังคาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางที่ดีในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 พร้อมมองว่าภาวะขาดดุลการค้าจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องได้อีก 2-3 เดือน

"ที่ผ่านมาเราเกินดุลมาโดยตลอด การขาดดุลจะช่วยบรรเทาแรงกดดันอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่า ช่วงที่เหลือเงินบาทค่อยๆอ่อนลง แค่ยังไม่อ่อนเร็วมากตามที่ผู้ส่งออกกังวล แนวโน้มจะเริ่มอ่อนลง ซึ่งเราคาดว่า การขาดดุลจะขาดดุลไปอีก 2-3 เดือน" ผู้อำนวยการ สนค. กล่าว

ทั้งนี้ หากจะให้การส่งออกของไทยทั้งปีนี้เติบโตได้ 6% การส่งออกในช่วงที่เหลือจะต้องทำให้ได้มูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 19,182 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือโตเฉลี่ยอย่างน้อยเดือนละ 3.1% คิดเป็นมูลค่าการส่งออกโดยรวมทั้งปีที่ 228,311 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากจะให้การส่งออกเติบโตได้ถึง 6.5% มูลค่าการส่งออกในช่วงที่เหลือจะต้องทำให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 19,398 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นมูลค่าการส่งออกโดยรวมทั้งปีที่ 229,388 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับสมมติฐานที่สำคัญ 3 ตัวที่จะทำให้การส่งออกเติบโตได้ตามเป้าหมาย คือ ปัจจัยเศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตได้ 3.5% ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 45-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากต้นปีที่คาดไว้ที่ 55-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.00-36.00 บาท/เหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ที่ระดับ 35.50-37.50 บาท/เหรียญสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ