(เพิ่มเติม1) พาณิชย์ เผย ส่งออก ส.ค.60 ขยายตัว 13.2% นำเข้าโต 14.9% เกินดุล 2,090 ล้านดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 21, 2017 12:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ส.ค.60 โดยการส่งออกมีมูลค่า 21,224 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 13.2% สูงสุดในรอบ 55 เดือน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 19,134 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 14.9% ส่งผลให้ดุลการค้าการเดินราว 2,090 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกปี 60 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 153,623 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.9% นำเข้ามีมูลค่า 144,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.4% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลา 8,873 ล้านเหรียญสหรัฐ

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน ส.ค.60 ที่มูลค่า 21,224 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13.2% ซึ่งถือว่าขยายตัวสูงสุดในรอบ 55 เดือนนั้น เป็นผลมาจากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม)

ประกอบกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรขยายตัวได้ในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 โดยสินค้าที่มีการขยายตัวได้ดีทั้งในด้านปริมาณและราคา คือ ยางพารา น้ำตาลทราย ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ขณะที่การส่งออกข้าว และผัก ผลไม้สดแช่แข็งและแปรรูปขยายตัวได้ดีจากด้านปริมาณเป็นสำคัญ ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และแผงวงจรไฟฟ้า

ทั้งนี้ การส่งออกไปตลาดสำคัญๆ ยังคงขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง และขยายตัวในทุกตลาดสำคัญ โดยการส่งออกไปยังตลาดหลักขยายตัวถึง 7.5% โดยเฉพาะ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่ขยายตัว 7.4%, 11.7% และ 3.7% ตามลำดับ

สำหรับตลาดศักยภาพสูงขยายตัว 16.4% จากการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องของตลาดจีนที่ 25.5% เช่นเดียวกับตลาด CLMV และเอเชียใต้ที่ขยายตัวสูงถึง 17.2% และ 31.5% ตามลำดับ ขณะที่ตลาดไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง และอาเซียน ขยายตัวในเกณฑ์ดีที่ 26.4%, 16.4%, 9.2% และ 6.5% ตามลำดับ

ด้านตลาดศักยภาพระดับรอง หดตัว 0.9% ตามการส่งออกไปทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา หดตัว 2.9%, 6.8% และ 8.7% ตามลำดับ

รมว.พาณิชย์ มองว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 60 คาดว่าจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และมีโอกาสจะเติบโตได้มากกว่าระดับ 7% โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีน และสหรัฐฯ รวมถึงคู่ค้าสำคัญในแถบอาเซียนที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง จะส่งผลดีต่อการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ยางพารา

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท ไม่ได้ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกในปีนี้เท่าใดนัก เนื่องจากเป็นการแข็งค่าของค่าเงินทั้งภูมิภาค เพียงแต่เรื่องค่าเงินยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ