ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.14 ทิศทาง sideway รอความชัดเจนการเลือกประธานเฟดคนใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 19, 2017 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.14 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ ปิดตลาดที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อคืนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแย่กว่าที่คาดพอสมควร แต่ช่วงนี้ตลาดยังพุ่งความสนใจไปที่ตัวประธานเฟดคน ใหม่ และมีคอมเม้นท์ของเจ้าหน้าที่เฟดที่ว่าแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยกับดอลลาร์เป็นขาขึ้น ช่วย Support ดอลลาร์ได้บ้าง" นักบริหาร เงิน กล่าว

นักบริหารเงิน กล่าวว่า ช่วงนี้ทิศทางเงินบาทค่อนข้าง Sideway ตลาดจะโฟกัสไปที่การเลือกประธานเฟดคนใหม่ โดย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ระหว่าง 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.97 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.73 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1805 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1750 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1020 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยและบริษัทย่อย ไตรมาส 3/60 มีกำไรสุทธิ 76.54 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.00 บาท
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 431.07 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยความคืบหน้าการลงทะเบียนพร้อมเพย์ล่าสุดในช่วงสิ้นเดือน ก.ย.ที่ผ่าน
มา มียอดลงทะเบียนพร้อมเพย์ 35 ล้านราย มีมูลค่าธุรกรรมการโอนเงินรวม 1.7 แสนล้านบาท จากเดือนก่อนนี้มีผู้ลงทะเบียน 32
ล้านราย มีวงเงินโอน 1.2 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าเมื่อมีการเปิดให้บริการคิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์ คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้
และปริมาณธุรกรรมจะยิ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือรีเวิร์ส มอร์ทเกจ โดย
ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อในช่วง 1 ปีแรกไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท และช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนก่อนสิ้นปีนี้ คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อ
ได้ 2,000-3,000 ล้านบาท เนื่องจากพบว่ามีผู้สูงอายุให้ความสนใจในโครงการนี้
  • องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ เปิดเผยผลการสำรวจจำนวนแนวโน้มการลงทุน
ของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในไทยปี 2560 มีจำนวน 5,444 บริษัท เพิ่มขึ้น 877 บริษัท หรือ 19.2% เมื่อเทียบกับการสำรวจในช่วง 3 ปี
ก่อน ที่มีจำนวน 4,567 บริษัท ถือว่าเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่สำรวจ โดยการเข้ามาลงทุนครั้งนี้จะเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ภาคการผลิตเพิ่ม
ขึ้น 629 บริษัท และภาคการผลิต 199 บริษัท
  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมจัดกิจกรรม หรืออีเวนต์ ด้านการท่องเที่ยว
ขนาดใหญ่ ภายใต้แบรนด์ "เมดอินไทยแลนด์" พร้อมผลักดันให้กลายเป็นอีเวนต์ระดับโลก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเข้า
ร่วมกิจกรรม โดยเตรียมนำร่องที่การเปิดตัว "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน กรุงเทพ" ที่มีเป้าหมายให้เป็นรายการมาราธอนติด
อันดับ 1 ใน 10 ของโลก ที่นักท่องเที่ยวและนักวิ่งต้องมาวิ่งให้ได้ภายใน 3 ปีแรกที่จัด และคาดว่าจะมีผู้มาเข้าร่วมกันแข่งขันกว่า
30,000-60,000 คน
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้
โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวในระดับพอประมาณและปานกลางในช่วงเดือนก.ย.จนถึงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าใน
พื้นที่บางเขตและอุตสาหกรรมหลายภาคส่วนของสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มาก็ตาม

รายงานระบุด้วยว่า อัตราการจ้างงานในสหรัฐมีการขยายตัวพอประมาณ ในขณะที่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว โดยที่นายจ้างยังประสบปัญหาในการว่าจ้างพนักงานที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ขนส่ง การผลิตที่ต้อง ใช้ทักษะ รวมถึงในภาคสาธารณสุขและบริการ อย่างไรก็ตาม เฟดระบุว่า มีแรงกดดันจากอัตราค่าจ้างและราคาผู้บริโภคในระดับที่ไม่ มาก

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนก.ย. ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 ในรอบ 6
เดือน สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากการก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวในภาคใต้ของสหรัฐปรับตัวลดลง เพราะได้รับผล
กระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ต.
ค.) ขณะนักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดจะพิจารณาแผนการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่
พรรครีพับลิกันยังไม่สามารถผลักดันให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้ในช่วงที่ผ่านมา
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้เทขายทองคำซึ่งเป็น
สินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น หลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยา
ที่ระดับ 23,000.00 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้
  • นักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งมีกำหนดจะเริ่มพิจารณาทางออกเกี่ยวกับงบประมาณในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของ
การอนุมัติแผนการปฏิรูปภาษีของปธน.ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม พรรครีพับลิกันอาจจะได้รับการสนับสนุนไม่มากนัก ในขณะที่วุฒิสมาชิกของ
พรรค 1 คน มีแผนจะเดินทาง และไม่สามารถใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ