(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.50 กลับมาอ่อนค่าหลังมีแรงซื้อดอลล์ มองกรอบวันนี้ 32.45-32.55

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 15, 2017 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.45 บาท/ดอลลาร์

"เช้านี้ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าขึ้นมาเนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์กับเข้ามาในตลาด เมื่อคืนตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด"นักบริหารเงิน กล่าว

ส่วนทิศทางค่าเงินบาทวันนี้คาดว่าจะทรงๆ ในกรอบ 32.45-32.55 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (14 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.75418% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (14 ธ.ค.)อยู่ที่ระดับ 1.10655%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.5267 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 112.27 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.76 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1781 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1820 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4870 บาท/
ดอลลาร์
  • รมช.คลัง เปิดเผยในการเปิดประชุมสัมมนาทางวิชาการประจำปี 60 ว่า สำนักงบประมาณได้ร่วมกับ องค์การเพื่อ
ความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) เพื่อปรับรูปแบบจัดสรรงบประมาณของประเทศสมาชิกเอเชียให้สอดคล้องกับทิศ
ทางของกระแสโลก โดยในการทำงบปี 62 ไทยจะมุ่งจัดสรรงบประมาณรองรับสังคมผู้สูงอายุ ตามโครงสร้างประชากร รวมถึงออก
มาตรการส่งเสริมผู้สูงอายุหลังเกษียณให้มีงานทำ เพราะยังมีศักยภาพ
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่มีมติ 7 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ช่วง 1.25-1.50% โดยเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 ของปี และเฟดคงประมาณการว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3
ครั้ง ทั้งในปี 2561 และปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายแตะระดับ 2.8% ทั้งนี้ผลจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดส่งผล
ให้ค่าเงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าสู่ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้วกว่า 10.0% ซึ่งแข็งค่าเป็น
อันดับสองของเอเชียรองจากเงินวอนเกาหลีใต้
  • เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า กรณีที่กระทรวงการ
คลังให้ ก.ล.ต.เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) เพิ่มเติมเรื่องการปรับปรุง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เฉพาะใน
ประเด็นเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เพื่อสนับสนุนทางการเงินกับตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ตามความจำเป็น โดยหมดระยะเวลาเฮียริ่งเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา และ ก.ล.ต.ได้เสนอให้
กระทรวงการคลังแล้วเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2560
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่ง
เป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้
กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่น ล้านยูโร/เดือนจนถึงสิ้นปีนี้ และลดลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้าจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า

อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า ธนาคารอาจจะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรเกินกว่าเดือนก.ย.ปีหน้า หากมีความจำเป็น และอาจมีการขยายวงเงิน QE หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง โดยธนาคารจะใช้มาตรการ QE จนกว่าภาวะเงินเฟ้อมีทิศทางดำเนิน ไปอย่างยั่งยืน

  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 9-0 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ
0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.)
เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ อาจเผชิญ
อุปสรรค หลังจากวุฒิสมาชิก 2 รายจากพรรครีพับลิกันได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับนี้ ขณะที่
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น ขานรับรายงานยอดค้าปลีกของอังกฤษที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ย.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศคงอัตรา
ดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจขยายวงเงิน QE หากมีความจำเป็น นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับฐานลง
ของตลาดหุ้นสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี หลังจากนายมาร์โค รูบิโอ และนาย
ไมค์ ลี สองวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า พวกเขาจะไม่ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับนี้ หากไม่มี
การเพิ่มวงเงินในการลดหย่อนภาษีเพื่อการสังเคราะห์บุตร โดยที่ผ่านมานั้น นายรูบิโอและนายลีได้พยายามผลักดันให้ครอบครัว
ชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อย สามารถรับประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษีให้มากที่สุด
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State

Manufacturing Index) เดือนธ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ