ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ตั้งเป้าปีนี้รายได้โตพุ่งกว่า 3 พันลบ.ก้าวขึ้นเบอร์ 1 สินเชื่อมอเตอร์ไซค์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 9, 2018 15:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 61 มากกว่า 3 พันล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อน โดยบริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนพนักงานขายและพนักงานปฏิบัติการสินเชื่อ พร้อมทั้งพัฒนาระบบให้บริการรอบด้าน

สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อคงค้างตั้งเป้าการเติบโต 26% จากปีก่อน โดยคาดว่าพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะเติบโตราว 17% เป็น 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ราว 7.7 พันล้านบาท และสินเชื่อส่วนบุคคลคาดว่าจะเติบโต 102% เป็น 1.7-1.8 พันล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ราว 700-800 ล้านบาท

"ปี 61 นี้ ซัมมิท แคปปิตอล มีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน เพื่อการก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ตามกลยุทธ์ Becoming Number 1 ภายในสิ้นปีงบประมาณ 61 โดยตั้งเป้ารายได้รวมจากการดำเนินงานมากกว่า 20% จากปี 60" นายวิชิตกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารเพื่อให้มีความคล่องตัว บริหารงานได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการแต่งตั้ง นายพีรพงศ์ กี้ประสพสุข เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและช่องทางการขาย เพื่อลงสนามคุมทีมงานกรุงเทพและภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมแต่งตั้ง นายชานนท์ คงมีสุข เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารหนี้ ดูแลการติดตาม และควบคุมระดับหนี้ทั่วประเทศ

บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนพนักงาน 10% ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีพนักงานให้บริการมากกว่า 500 คนใน 33 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้บริการได้ครอบคลุม และรองรับการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถเมอเตอร์ไซค์ รวมถึงจัดการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าพนักงานทั้ง 100% ต้องได้รับการฝึกอบรมตรงตามสายงานที่ทำ เพื่อให้เกิดความชำนาญในการปฏิบัติหน้าที่

นอกจากนั้น บริษัทยังมีการเตรียมความพร้อมด้านระบบสนับสนุนการดำเนินงาน โดยมีเม็ดเงินมูลค่ากว่า 60 ล้านบาทในปี 60 เพื่อพัฒนาระบบปฏิติการงานสินเชื่อ Summit Smart System เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า และทำให้การดำเนินงานภายในมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถอนุมัติสินเชื่อภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที

อีกทั้งพัฒนาระบบปฏิบัติการสื่อสารภายในองค์กรเพื่อใช้ในการสื่อสารกับพนักงานทั่วประเทศ และใช้ตรวจสอบการทำงานของทีมงานขาย พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสินเชื่อ โดยมีระบบสำรองในการปฏิบัติการสินเชื่อของบริษัทเต็มรูปแบบ เพื่อรับมือเหตุการณ์ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งระบบนี้รองรับการทำงานได้ 24 ชั่วโมง

นายวิชิต กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตราส่วนหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) ให้ลดลงเหลือต่ำกว่า 1% ด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทัยสมัยทำให้สามารถคัดกรองลูกค้าเพื่อปล่อยสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ