(เพิ่มเติม) THANI คาดพอร์ตสินเชื่อปีนี้โตเกือบ 40% สูงกว่าเป้าเดิม, ปี 57 โต 20-30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 5, 2013 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) คาดสินเชื่อสุทธิปี 56 จะเติบโตราว 40% จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 30% ขณะที่ในปี 57 คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตที่ 20-30% โดยจะมีการเปิดสาขาใหม่ 2-3 แห่ง ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้

นอกจากนี้ ในปี 57 บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ใหม่ราว 2 พันล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิม

นายโกวิท รุ่งวัฒนโสภณ กรรมการผู้จัดการ THANI คาดว่า พอร์ตสินเชื่อปีนี้จะเติบโตเกือบ 40% หรือที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 30% จากที่ 3 ไตรมาสผ่านมาสามารถเติบโตได้แล้วกว่า 30% หรือราว 2.6 หมื่นล้านบาทจากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อ 1.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีนี้การบริโภคในปรเทศยังปรับตัวดีอย่างต่อเนื่อง จากการขึ้นค่าแรง ประกอบกับสินค้าการเกษตร ที่ได้รับการประกันราคาจากภาครัฐ ส่งผลให้ภาพรวมรถบรรทุกเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯมีสัดส่วนของพอร์ตสินเชื่อเป็นรถบรรทุกถึง 70 %

สำหรับปี 57 บริษัทฯคาดว่า พอร์ตสินเชื่อจะมีการเติบโตมากกว่าปีนี้ 20-30% ซึ่งเป็นการเติบโตที่น้อยกว่าปี 56 เนื่องจากปีนี้พอร์ตสินเชื่อมีการเติบโตค่อนข้างมาก และฐานของพอร์ตสินเชื่อใหญ่กว่าปี 56 โดยมองว่าในปี 57 จะยังมีการเติบโตของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่อง จากที่มองว่าการค้าชายแดนที่ปัจจุบันมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศพม่าที่มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นจำนวนมาก

ในขณะเดียวกันในปี 57 จะมีโครงการภาครัฐต่างๆ ที่จะกระตุ้นในความต้องการรถบรรทุกในการขนส่งปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯ จะปรับสัดส่วนระหว่างรถบรรทุกใหม่และรถบรรทุกเก่า มาที่ 50:50 จากปัจจุบันที่ 70:30 เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อรถเก่าสามารถปล่อยได้ง่ายกว่า และ มีกำไรที่สูงกว่าการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกใหม่

นายโกวิท กล่าวว่า ในปี 57 จะขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 2-3 สาขา ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคใต้ เพื่อจะขยายให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยปัจจุบันครอบคลุมอยู่ทั้งหมด 40 กว่าจังหวัด

นอกจากนี้ บริษัทจะออกหุ้นกู้ทดแทนหุ้นกู้ดิมที่จะถึงกำหนดในปี 57 มูลค่าราว 2 พันล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทฯมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ประมาณ 2.5% หรือราว 671 ล้านบาท โดยจะรักษาให้อยู่ในระดับนี้จนถึงช่วงปลายปี ซึ่งบริษัทฯได้ตั้งสำรองของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ไว้ประมาณ 70% ระดับหนี้สินต่อทุน (D/E) ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 7.5 เท่า และจะรักษาให้อยู่ในระดับนี้

"D/E ในระดับ 7.5 เท่านั้น ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงมากนัก ซึ่งบริษัทฯสามารถมี D/E ได้สูงถึง 10 เท่า แต่เราก็ยังจะไม่ให้เพิ่มสูงไปในระดับนั้น เราก็ยังจะรักษา D/E ให้อยู่ในระดับ 7.5 เท่าต่อไป ในขณะเดียวกันเราก็มองว่าปัจจุบันทุนของเรายังเพียงพอแก่การขยายตัวของบริษัทฯอยู่ ยังไม่ได้มีแนวคิดที่จะเพิ่มทุนแต่อย่างได" นายโกวิท กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ