กองทุนดังกล่าวเน้นการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทชั้นนำในประเทศไทย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ที่ออกโดยธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้งหมดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ A, A- และ BBB+ ตามลำดับ และยังลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ A- นอกจากนี้บริษัทอาจพิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด ด้วย ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะมีการจ่ายผลตอบแทนโดยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกๆ 6 เดือน
“จากกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนระยะยาว กับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการของ บลจ.กสิกรไทย ซึ่งบริษัทได้เคยเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 3 ปี เอ (KTF3YA) ไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยกองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี และสามารถปิดการเสนอขายเนื่องจากมีผู้จองซื้อเข้ามาเต็มมูลค่าโครงการรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ได้ตั้งแต่ภายใน 2 วันแรกที่เปิดการเสนอขาย ดังนั้นเพื่อตอบรับความต้องการดังกล่าว บริษัทจึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 3 ปี บี (KTF3YB) เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนอย่างต่อเนื่อง" นายชัชชัยกล่าว
สำหรับมุมมองด้านเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงนี้ นายชัชชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจและการลงทุนไทยในช่วงระยะสั้น ยังคงมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงมีความไม่แน่นอนและยังหาทางออกไม่ได้ แม้ว่าความตึงเครียดจะลดลงไปมากเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการเตรียมทบทวนปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือนมิถุนายนนี้ จากเดิมที่เคยคาดการณ์การเติบโตไว้ที่ 2.70% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ธปท.จะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีแนวโน้มทรงตัวถึงปรับตัวลดลง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปี ปิดที่ 2.54% โดยปรับตัวลดลง 0.03% จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ หลังมีแนวโน้มว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำให้ผู้ลงทุนเลือกกระจายความเสี่ยงและจับจังหวะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และสามารถเลือกพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการที่สามารถล็อกผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้ โดยกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 3 ปี บี ที่บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคาดว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ภายใต้ความสามารถในการรับความเสี่ยงในระดับปานกลางถึงต่ำ