(เพิ่มเติม) PTG ได้ผู้ร่วมทุน 3-4 รายผลิต B100 สรุป Q3/57,เจรจาพันธมิตรใน-นอกตลาดฯทำปั๊ม LPG

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 24, 2014 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้พันธมิตร 3-4 รายที่สนใจเข้าร่วมทุนในโครงการผลิตไบโอดีเซล B100 ครบวงจร โดยคาดว่าจะสรุปงบลงทุน รวมทั้งการขออนุญาตตั้งโรงงานภายในไตรมาส 3/57 เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านบาท พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร 3-4 ราย ซึ่งเป็นบริษัททั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์เพื่อร่วมกันทำปั๊ม LPG คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้

บริษัทยังมีการเจรจากับบริษัทผู้บริหารสื่อโฆษณา 2 รายที่สนใจเช่าพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาภายในปั๊ม PT ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/57 โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้นอกเหนือจากการขายน้ำมัน(non-oil)ให้เป็น 5-10% ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมีสัดส่วนราว 1%

PTG ยังมั่นใจว่าทั้งปี 57 รายได้จะเติบโต 20-25% ตามเป้าหมาย และกำไรสุทธิดีกว่าปีก่อน โดยในช่วงครึ่งปีแรกรายได้และกำไร เติบโตตามการขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มเป็น 813 แห่ง ณ สิ้นเดือน มิ.ย.57 ซึ่งภายในปีนี้จะขยายเพิ่มเป็น 1 พันแห่ง

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าวถึงแผนร่วมลงทุนในโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ เพื่อนำไปสู่การผลิตไบโอดีเซล B100 ตั้งแต่ต้นน้ำว่า เบื้องต้นได้พันธมิตรร่วมลงทุนโครงการนี้แล้วราว 3-4 ราย ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด คาดว่าจะมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท โดยจะข้อสรุปมูลค่าการลงทุน รูปแบบของโครงการ รวมถึงการขออนุญาตตั้งโรงงานและขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วงไตรมาส 3/57

"เราได้รวบรวม ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ซึ่งในช่วงไตรมาส 3/57 นี้เราคาดว่าจะสามารถสรุปมูลค่าการลงทุน รูปแบบโครงการ รวมถึงการขอใบอนุญาตการตั้งโรงงาน และ BOI" นายพิทักษ์ กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 3-4 รายทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อศึกษาแนวทางความร่วมมือในการเปิดสถานีบริการก๊าซ LPG โดยมีการเจรจาทั้งการซื้อก๊าซ LPG และการก่อสร้าง รวมทั้งรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐในการปรับโครงสร้างและปฏิรูปพลังงาน โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 57

"เราอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อที่จะเพิ่มธุรกิจการขายก๊าซ LPG เพิ่มจากเพียงการขายน้ำมันเท่านั้น แต่เราก็ต้องรอดูความชัดเจนของการปฏิรูปพลังงานก่อนว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเรามองว่าการปฎิรูปพลังงานครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะคงจะได้เห็นทิศทางที่ชัดเจนต่อจากนี้ว่าพลังงานจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งหากทุกๆอย่างชัดเจนแล้วเราคงจะมาดูถึงความเป็นไปได้ในการขายก๊าซ ซึ่งเราก็มองว่าคงจะเห็นความชัดเจน และได้ข้อสรุปในปลายปีนี้" นายพิทักษ์

พร้อมกันนั้น บริษัทยังเจรจากับเอเจนซี่ 2 รายที่จะเข้ามาดูแลเรื่องพื้นที่เช่าและพื้นที่โฆษณาภายในปั๊มน้ำมัน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/57 ซึ่งการขยายธุรกิจด้านต่างๆ นอกเหนือจากการขายน้ำมันนั้น บริษัทฯตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่เป็น Non-oil ให้เพิ่มขึ้นเป็น 5-10 % ในช่วงระยะเวลา 4-5 ปีต่อจากนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1%

"หลังจากที่เรามีการขยายธุรกิจด้านต่างๆนอกเหนือจากการให้บริการน้ำมัน อาทิ ให้เช่าพื้นที่โฆษณา ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวางระบบ รวมถึงให้เช่าพื้นที่วางภายในสถานีบริการน้ำมัน บริษัทฯตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก Non-oil เป็น 5-10 จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 1% เท่านั้น"นายพิทักษ์ กล่าว

นายพิทักษ์ กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโตตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะเติบโตราว 20-25% จากปีก่อน ในขณะที่กำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนแน่นอน เนื่องจากบริษัทได้ขายสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนให้แตะ 1 พันแห่งภายในสิ้นปีนี้ จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/57 มีจำนวนเพิ่มเป็น 813 ปั้มแล้ว โดยใช้บลงทุนราว 3 ล้านบาท/สถานีบริการน้ำมัน

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกทั้งรายได้และกำไรเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมในไตรมาส 3/57 คาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันจะชะลอลงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ามาดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้ในไตรมาส 4/57 รวมไปถึงปี 58 เศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง ทำให้เชื่อว่าครึ่งปีหลังผลประกอบการก็จะเติบโตได้มากกว่าครึ่งปีแรก

"ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาปิรมาณการเติมน้ำมันยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเราเชื่อว่าครึ่งปีหลังปริมาณการเติมน้ำมันจะมากกว่าครึ่งปีแรกอีก หลัง คสช. เข้ามาดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้อีก รวมถึงบริษัทฯมีการขยายปั้มอย่างต่อเนื่อง และจะเปิดเพิ่มอีกมากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจากการเติบโตของปั้มที่ทำให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจะทำให้กำไรสุทธิปีนี้ของเรา เติบโตมากกว่าปีก่อนแน่นอน"นายพิทักษ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตรสมาชิก Max card เป็น 2.6 ล้านใบ จากปีก่อนที่มีจำนวนบัตรเพียง 1.35 ล้านใบ ซึ่งการขยายตัวของบัตรจะสะท้อนถึงจำนวนการเติบโตของปริมาณการเติมน้ำมันมากขึ้นด้วย เนื่องจากการปริมาณการเติมน้ำมันผ่านบัตรมีสัดส่วนถึง 67-68% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ