เมื่อพิจารณารายกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศมีความเชื่อมั่นในสถานการณ์อีก 3 เดือนข้างหน้าจะร้อนแรง (Bullish) โดยมีความเชื่อมั่นที่ 144.40 รองลงมาคือกลุ่มนักลงทุนรายย่อย 124.67 (Bullish) ในขณะที่นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (Proprietary trader) ยังคงมองว่า ทิศทางตลาดทุน ในสถานการณ์อีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่116.70 (Neutral) เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างประเทศที่มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ 100.00 (Neutral)
เมื่อเปรียบเทียบดัชนีความเชื่อมั่นจากเดือนที่ผ่านมาเป็นรายกลุ่มพบว่าดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยความคิดเห็นภาพรวมของนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าตลาดทุนมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศและนักลงทุนราย่อยกลับให้ความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ด้านปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนนั้น ค่อนข้างมีความสอดคล้องกันคือ นักลงทุนส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นปัจจัยด้านเศรษฐกิจในประเทศ นโยบายด้านเศรษฐกิจ และสถานการณ์ต่างประเทศเป็นหลัก โดยคลายความกังวลจากปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองอย่างชัดเจน
สำหรับหมวดอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนและไม่น่าลงทุนสูงสุด โดยภาพรวมมองว่าธุรกิจการเงิน (Finance) มีความน่าลงทุนมากที่สุด ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าธุรกิจที่ไม่น่าลงทุนมากที่สุดคือ สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Product) อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยภายนอกบางประการที่นักลงทุนมองว่ายังคง ส่งผลต่อทิศทางตลาด เช่น ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีโอกาสปรับลดประมาณการลง แรงซื้อ/ขายกองทุนรวม นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) สภาพคล่องภายในประเทศ ภาวะหนี้สินภาคครัวเรือน อัตราการบริโภคของครัวเรือนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการบริหารงานของรัฐบาล ฯลฯ
สำหรับ FETCO NIDA Investor Sentiment Index จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) และศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(NIDA) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและส่งเสริมทางด้านสถิติที่เกี่ยวข้องกับภาคตลาดทุนไทย ในการเป็นเครื่องมือเพื่อวิเคราะห์คาดการณ์แนวโน้มของทิศทางตลาดทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อให้นักลงทุนและผู้สนใจสามารถน ข้อมูลดังกล่าวเป็นแนวทางหนึ่งในการสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจได้รูปแบบหนึ่ง