สำหรับนโยบาย “ธนู 3 ดอก" ของรัฐบาลนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ที่ชนะการเลือกตั้งอีกวาระ สานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอาเบะโนมิกส์นั้น ทิสโก้มองว่าส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น และเป็นปัจจัยผลักดันตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยเฉพาะ“ธนูดอกที่ 3" ซึ่งเน้นการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว โดยใช้มาตรการต่างๆที่จะทำให้บริษัทญี่ปุ่นมีกำไรเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกำลังแรงงาน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน โดยวางแผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงมาอยู่ต่ำกว่า 30% หรือการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของกองทุนบำเหน็จบำนาญญี่ปุ่น (GPIF) ซึ่งจะทำให้มีเงินไหลเข้าซื้อหุ้นญี่ปุ่นและเอเชียอีก 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมาตรการนี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัว และทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ในระยะ 1 เดือนคาดว่าดัชนี NIKKEI จะแกว่งออกข้าง (Sideways) กรอบ 16,400-18,030 จุด โดยเป้า 3 เดือนยังคงไว้ที่ 18,200 จุด หรือมีอัพไซต์ 7.7% ผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดญี่ปุ่นสามารถลงทุนใน ETF-Nomura NIKKEI225 ได้โดยตรง
นอกจาก ETF แล้ว ทีม TISCO Global Trade ยังคัดหุ้นเด่นของตลาดญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นรายตัว โดยเป้นหุ้นที่มีพื้นฐานดี อัพไซต์สูง และติดอันดับหุ้น Top 10 หุ้นโลกที่น่าลงทุน โดยบทวิเคราะห์ TISCO Global Equity Strategy เดือน ม.ค.58 ได้แนะนำหุ้นญี่ปุ่นรายตัว ได้แก่ “JAPAN AIRLINES CO., LTD." สายการบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น กลุ่มบริษัท JAL ให้บริการการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนให้บริการขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 220 แห่ง ใน 35 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหุ้นสายการบินที่น่าสนใจที่สุดในภูมิภาคนี้ จากการเปรียบเทียบ P/B, ROE และ EV/EBITDA ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดสำหรับหุ้นสายการบินในภูมิภาค และบริษัทยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินเยนที่อ่อนลงซึ่งจะเป็นผลบวกต่อปริมาณผู้โดยสารขาเข้า นอกจากนั้นราคาหุ้นในปัจจุบันยังน่าสนใจเนื่องจากราคาเป้าหมายที่ถูกปรับขึ้นจากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นและโอกาสที่จะประกาศจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้น โดยตลาดให้ราคาเป้าหมาย 1 ปีที่ 4214.4 JPY เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบันแล้วยังเหลืออัพไซต์อีกราว 14%
อีกหนึ่งหุ้นญี่ปุ่นที่น่าสนใจ ที่แนะนำคือ “ISUZU MOTORS LTD." บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์และเครื่องยนต์ดีเซล โดยในปี 52 บริษัทมีตัวเลขการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลถึง 21 ล้านชิ้น โดยส่งให้ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่ายทั่วโลกรวมถึงไทย ซึ่งบริษัทกำลังได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ดีขึ้นของประเทศไทย และยังมีผลประกอบการในไตรมาส 2/57 เป็นไปตามคาด คือยอดขายรถบรรทุกในประเทศยังแข็งแกร่งโดยเพิ่มขึ้น 17%YoY และยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นกว่า 10% สำหรับแนวโน้มในปี 58 นี้ผู้บริหารเพิ่มเป้ายอดขายทั้งปีเป็น 1.85 ล้านล้านเยน จากยอดขายโดยรวมที่จะดีขึ้นจากผลบวกของโมเดล MU-X และยอดสั่งขายรถบรรทุกที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ให้ราคาเป้าหมาย1ปีของหุ้น Isuzu ที่ 1,711JPY หรืออัพไซต์ประมาณ 14%