IRPC ไม่กังวล กบข.ขายหุ้น,มั่นใจปีนี้รับผลดีราคาน้ำมันลดดันมาร์จิ้นโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 25, 2015 12:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)กล่าวว่า การที่กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)ขายหุ้นออกไปราว 4% ไม่กระทบต่อการบริหารของบริษัท เนื่องจากเป็นเพียงสัดส่วนไม่มาก ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ แม้มองรายได้จะลดลงจากปีก่อนตามราคาน้ำมันที่ลดลง แต่อัตรากำไร(มาร์จิ้น)มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการลงทุนขนาดใหญ่ก่อนหน้านี้ที่ทยอยแล้วเสร็จ และราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลงด้วย

“ในส่วนที่ กบข.ขายหุ้นประมาณ 4% ไม่น่ามีผลกระทบอะไรเพราะเป็นส่วนน้อย และเข้าใจว่าไม่ได้ขายให้คนๆ เดียว แต่เป็นการขายให้กับผู้ซื้อหลายราย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นผู้ซื้อรายใดบ้าง เราจะทราบเมื่อมีการปิดสมุดทะเบียนในเร็วๆนี้จึงจะรู้ว่าใครเข้ามาถือหุ้นเท่าไหร่"นายสุกฤตย์ กล่าว

อนึ่ง IRPC มีบมจ.ปตท.(PTT) ถือหุ้นใหญ่ 38.51% ธนาคารออมสิน ถือหุ้น 9.54% และ กบข.ถือหุ้นอยู่ 5.79% ขณะที่มีรายงานว่าวานนี้ กบข.ได้ขายหุ้นราว 4% ผ่านทางโบรกเกอร์เป็นผู้ดำเนินการ

นายสุกฤตย์ คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการโดยรวมของ IRPC ในปีนี้ยังมีทิศทางที่ดี แม้รายได้อาจลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ราว 2.73 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้คาดว่าจะลดลงมาอยู่ในช่วง 50-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีที่แล้วอยู่ที่ 96.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

แต่ปีนี้ความสามารถในการทำกำไรจะดีขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปลดลงช้ากว่าราคาน้ำมันดิบ ทำให้ส่วนต่าง(สเปรด)ราคาอยู่ในระดับสูง รวมถึงใช้เงินทุนหมุนเวียนน้อยลง ตลอดจนคาดว่าอาจมีกำไรจากสต็อกน้ำมันด้วย เพราะราคาน้ำมันปิดปลายปีที่แล้วอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ การลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาจะทยอยแล้วเสร็จ โดยเฉพาะโครงการ UHV ซึ่งเป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าต่ำมาปรับให้เป็นมูลค่าสูงจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/58 ช่วยทำให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น และยังรับรู้มาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นจากโครงการเดลต้าได้เต็มปี จากปีที่แล้วรับรู้ได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น ตลอดจนราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทำให้ช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้จำนวนมากด้วย โดยคาดว่ากำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม(GIM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันในปีนี้จะสูงกว่า 7.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีที่แล้ว

นายสุกฤตย์ กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงไตรมาส 1/58 จะอยู่ช่วง 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และจะฟื้นตัวมาอยู่ในช่วง 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงครึ่งหลังปีนี้ โดยมองแนวโน้มการผลิต Shale oil ลดลงมากจากปีที่แล้วมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นราว 1.5 ล้านบาร์เรล และในปีนี้คาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพียง 8 แสนบาร์เรลเท่านั้น ทำให้ทิศทางราคาเริ่มเข้าสู่สมดุลมากขึ้น

สำหรับแนวทางการบริหารสต็อกน้ำมันของบริษัทในช่วงที่ผ่านมานั้น เมื่อปีที่แล้วบริษัทได้ลดการเก็บสต็อกน้ำมันลงมาเหลือระดับ 7 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับปี 51 มีสต็อกสูงถึง 10 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม จากการที่แนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ และการที่บริษัทยังมีพื้นที่คลังน้ำมันคงเหลือราว 5 แสนบาร์เรล ก็อาจจะมีการเก็บสต็อกเพื่มขึ้นอีกในช่วงไตรมาส 1/58

ขณะที่ล่าสุดวันนี้ IRPC และ บริษัท บูลไล้ท์ อุตสาหกรรม จำกัด ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเป๋าเดินทางจากเม็ดพลาสติกผสมยางธรรมชาติ (Green ABS) ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทาน รองรับการกระแทกได้ดี โดยเม็ดพลาสติก Green ABS ที่ผลิตเป็นกระเป๋าเดินทางครั้งนี้ มีส่วนผสมของยางธรรมชาติในสัดส่วน 2% และมีเป้าหมายจะเพิ่มเป็นระดับ 8% ในอนาคต ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการใช้ยางพารามากขึ้นด้วย

ปัจจุบัน IRPC มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก ABS ปริมาณ 177,000 ตัน/ปี ขณะที่มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก Green ABS ที่ 6,400 ตัน/ปี คิดเป็นปริมาณเนื้อยางธรรมชาติที่ต้องการใช้ประมาณ 135 ตัน/ปี เท่ากับจะใช้พื้นที่การปลูกประมาณ 500 ไร่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ