BM ใกล้ยื่นไฟลิ่งหวังเข้าตลาด mai เล็งขยายตลาดอาเซียนพุ่งเป้าเมียนมาร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 26, 2015 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอกชีท เม็ททัล(BM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมการเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายหลังจากแต่งตั้งให้ บริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อแปรสภาพบริษัทมหาชน หลังจากนั้นจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ในเร็ว ๆ นี้เพื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)

BM เป็นผู้นำในการผลิต แปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก รางและท่อร้อยสายไฟฟ้า สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ และ แผงควบคุมไฟฟ้า ที่ใช้ตาม อาคาร คอนโด และ ที่อยู่อาศัย ภายใต้แบรนด์ BSM

นายธีรวัต เปิดเผยถึง แผนการลงทุนของบริษัทในปีนี้มีแผนขยายไปยังประเทศในอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งการดำเนินงานอาจจะเป็นในลักษณะของหาช่องทางในการจัดจำหน่ายหรือการร่วมลงทุน เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าปัจจุบันประเทศในอาเซียนกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาประเทศ จึงมีความต้องการงานด้านเหล็กโครงสร้าง หรืองานก่อสร้างอื่นๆ มากยิ่งขึ้น

“นอกจากการหาตลาดในประเทศแล้ว เรายังตั้งเป้ากระจายสินค้าออกจำหน่ายยังประเทศอาเซียนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศเวียดนาม กัมพูชา หรือลาว ภายใต้กรอบความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เคยร่วมงานกับเรามาก่อน เพื่อผลิตจนแล้วเสร็จในประเทศไทย แล้วส่งออกจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน" นายธีรวัต กล่าว

สำหรับรายได้โดยรวมในปี 58 มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นกว่าปีก่อน แต่ในเรื่องของกำไรโดยรวมอาจจะยังไม่ชัดเจนว่าจะโตมากหรือน้อยเพียงใด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างชะลอตัว หลายโครงการโดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีแผนจะก่อนสร้างก็เป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้ตลาดอุตสาหกรรมเหล็กโดยรวมค่อนข้างนิ่งในช่วงแรกของปี บริษัทจึงจำเป็นต้องปรับแผนด้านราคาชิ้นงานเพื่อให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาวะตลาดมากยิ่งขึ้น แต่เชื่อว่าต่อจากนี้ โครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ของรัฐบาล ที่มีแผนดำเนินการในเร็วๆ นี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้อุตสาหกรรมเหล็ก โดยเฉพาะเหล็กโครงสร้าง ได้รับอานิสงส์กันถ้วนหน้า

นอกจากการวางแผนลงทุนในต่างประเทศ บริษัทฯ ยังสร้างโรงงานเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง บริเวณฝั่งตรงข้ามกับโรงงานเดิมของบริษัทฯ ปัจจุบันงานโครงสร้างแล้วเสร็จกว่า 100 % แล้ว พร้อมนำเข้าเครื่องจักรกลใหม่มูลค่ารวมกว่า 40 ล้านบาท เพื่อรองรับงานแปรรูปเหล็กที่มีเพิ่มขึ้นทุกรูปแบบ ทั้งงานผลิตเหล็กโครงสร้าง ที่ลักษณะชั้นงานมีแนวโน้มเชื่อมสำเร็จจากโรงงานมากขึ้น หรืองานเหล็กชิ้นเล็กเพื่อต่อประกอบจากต่างประเทศ ทั้งจากลูกค้าเดิม และลูกค้ารายใหม่ โดยเฉพาะการผลิตสินค้าให้บริษัทต่างชาติ และการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ เอง เพื่อขายประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังจะมีในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ