(เพิ่มเติม) EFORL จับมือ"สยามสเนล"ยกระดับงานวิจัยเมือกหอยทากพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงาม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 1, 2015 18:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมลงทุนใน บริษัท สยามสเนล จำกัด เพื่อยกระดับผลงานค้นคว้าวิจัยการใช้ประโยชน์จากเมือกหอยทากโดยเฉพาะเมือกจากหอยทากในประเทศไทยที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความงามแห่งผิวพรรณที่มาจากธรรมชาติปลอดภัยจากสารเคมี

สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ เป็นความท้าทายในการปรับแนวนโยบายระยะยาวของกลุ่มบริษัทในการสร้างนวัตกรรมด้านความงามใหม่ๆ ที่มีการคิดค้นโดยคนไทย และตั้งเป้านำผลิตภัณฑ์เมือกหอยทากที่คิดค้นและพัฒนาได้ ออกมาจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศภายในเดือนเมษายนนี้ และคาดว่าจะทำให้ EFORL มีฐานธุรกิจด้านสุขภาพและบริการความงามครบวงจรมากยิ่งขึ้น และในส่วนของ EFORLยังจะมีบทบาทในการจัดจำหน่ายผ่านสาขาของวุฒิศักดิ์คลินิกที่มีสาขาอยู่ในประเทศไทย 122 สาขา

บริษัท สยามสเนล จำกัด ได้ทำการศึกษาถึงประโยชน์จากเมือกหอยทากสายพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ซึ่งพบว่าหอยทากเป็นสัตว์ที่ต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่เป็นภัยทั้งศัตรูและเชื้อโรคที่มีอยู่ในธรรมชาติเป็นจำนวนมาก จึงได้สร้างเมือกขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันภัยในรูปแบบสารคัดหลั่งคลุมผิวที่อุดมไปด้วยโมเลกุลทางธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ ซึ่งช่วยลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวเด้งตึงกระชับ และเพิ่มความกระจ่างใส

นอกจากนี้ จากการวิจัยยังพบว่าหอยทากสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่แถบประเทศไทยนั้นมีความหลากหลายทางสายพันธุ์ อุดมไปด้วยโปรตีน และเปปไทด์ ไฮยาลูรอน และกรดที่อุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ต้านเชื้อโรคที่อยู่ในเขตร้อน จึงเหมาะกับผิวของคนไทยและคนเอเชีย สำหรับคนไทยจะได้รับประโยชน์จากความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ซึ่งจะให้ผลดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะเลี้ยง การผลิตเมือก และการสกัดด้วยระบบความสะอาดและความปลอดภัยสูงสุด

นายธีรวุทธิ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่จากเมือกหอยทาก เช่น ครีมบำรุงผิว ได้ภายในไตรมาส 2/58 ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัททั้งรายได้และกำไรในปีนี้เติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อน โดยในปี 57 มีรายได้ 1,490 ล้านบาท กำไร 240 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังมาจากธุรกิจขายเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจเสริมความงาม ซึ่งแนวโน้มผลงานในไตรมาส 1/58 มีการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท

ส่วนการขยายธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มเติมนั้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2/58 เริ่มจากอินโดนีเซีย โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาวุฒิศักดิ์คลีนิกในไทย 122 สาขา และในต่างประเทศ 11 สาขา

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการนำบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 59 หลังจากปิดงบการเงินในปี 58 โดยได้แต่งตั้งให้ บล.กสิกรไทย เป็นทีปรึกษาทางการเงินแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ