L&E คาดผลประกอบการ Q4/58 โตดีมาก หลังรับรู้ฯ Backlog 630-720 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 18, 2015 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2558 ว่า จะเติบโตดีมากจากมูลค่างานคงค้างในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 630-720 ล้านบาท จากมูลค่างานคงค้างทั้งหมด 900 ล้านบาท โดยงานที่รอรับรู้รายได้ส่วนใหญ่เป็นงานโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างเอกชน และงานภาครัฐบาลที่ล่าช้า ทั้งนี้ ไตรมาส 4/2558 เป็นไตรมาสที่ผลประกอบการโดดเด่นที่สุด แต่ทั้งปีรายได้จะเติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,600 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องจากปี 2558 เป็นปีแห่งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและนโยบายภาครัฐบาลทำให้งานในด้านต่างๆล่าช้าเพื่อรอความชัดเจนด้านนโยบาย

ในปี 2559 ซึ่งในปีหน้าคาดว่ารายได้ของบริษัทฯจะเติบโตอย่างน้อย 15-20% จากการปรับตัวเตรียมพร้อมรับมือ และโรงงานแห่งใหม่ที่ จ.ปทุมธานี สามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตได้เต็มที่ 100% ในต้นปีหน้าซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการปี 2559 ของ L&E เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ปีหน้ามาจากงานโครงการ 70% ค้าส่ง ค้าปลีก 25% และต่างประเทศ 5%ซึ่งรายได้ค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลอด LED และบริษัทฯมีกำลังการผลิตหลอด LED เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากโรงงานแห่งใหม่ จังหวัดปทุมธานี

“Q4/58 Backlog จะเป็นตัวผลักดันรายได้เพราะรับรู้รายได้ล่าช้ามาตั้งแต่ Q3/58 คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ 600-700 ล้านบาท แต่รายได้ปีนี้ทั้งปีจะเติบโตไม่มาก อยู่ที่ระดับ 5-10% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 10-15% ส่วนกำไรคาดว่าจะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทฯ เชื่อว่าจะมีการจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นต่อเนื่องอย่างที่เคยปฏิบัติมาทุกปี แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในต้นปีหน้า ขณะที่เป้าหมายรายได้ปีหน้าจะโตได้ 15-20% หลังเตรียมความพร้อมบุคลากร ทีมงาน โครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการเปิด AEC และการขยายตัวของตลาด" นายปกรณ์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานงบเฉพาะกิจการประจำไตรมาส 3/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 678 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 13% แม้งานโครงการของภาคเอกชนจะยังคงเติบโตในอัตรากว่า 10% ตามปกติ แต่งานโครงการภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ LED แทนของเดิมเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานนั้นได้ชะลอตัวลง โดยคาดว่าบางส่วนจะเลื่อนไปไตรมาสที่ 4 และบางส่วนอาจเลื่อนไปเป็นต้นปีหน้า ขณะที่กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 16.2 ล้านบาท ลดลง 62% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทฯ ใช้กำลังผลิตได้ไม่เต็มที่ เพราะการย้ายโรงงานไปที่ใหม่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมเงินจากธนาคารสูงขึ้นซึ่งสาเหตุใหญ่มาจากการสร้างโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน 2558 รายได้จากการขาย 1,841.39 ล้านบาท กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 31.68 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ