SMART เผยปีนี้ปรับสัดส่วนรายได้รัฐ-เอกชนเป็น50:50, รับรู้ฯผลิตภัณฑ์ใหม่ Q2/59

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 9, 2016 10:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า ในปี 59 บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อสร้างการเติบโต โดยเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ "อิฐมวลเบาประเภทตกแต่ง" เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่เข้ามาในไตรมาสที่ 2/59 และจะเร่งบุกตลาดโครงการภาครัฐ ซึ่งจะมีการลงทุนในโครงการต่างๆ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วขนาดรางกว้าง 1.435 เมตร และโครงการขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ อีกหลายเส้นทาง หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง จะผลักดันให้เกิดแหล่งชุมชนและที่อยู่อาศัย ซึ่งจะส่งผลดีกับทางบริษัท และทำให้มีความต้องการใช้วัสดุอิฐมวลเบาในการก่อสร้างมากขึ้น ดังนั้น ตั้งแต่ต้นปี 2559 คาดว่าจะสามารถปรับสัดส่วนรายได้เป็นงานภาครัฐ 50% ภาคเอกชน 50%

สำหรับความคืบหน้าการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเจรจากับดีลเลอร์ในประเทศกัมพูชาแล้วเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ปัจจุบันบริษัทได้มีการส่งสินค้าไปยังประเทศกัมพูชาและยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้เริ่มทยอยเข้ามาได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2558 และอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดที่ประเทศพม่า ลาว เพื่อทำการกระจายสินค้าให้ครอบคลุม เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่งบลงทุนในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 200 ล้านบาท เพื่อไว้ใช้สำหรับขยายกำลังการผลิตและออกผลิตภัณฑ์ผนังมวลเบานวัตกรรมใหม่ โดยจะขอดูภาวะตลาดอีกระยะหนึ่งก่อนการลงทุน

ทั้งนี้ในปี 59 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตมากกว่าปี 58 ประมาณ 10% หรือไม่ต่ำกว่า 390 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการขยายตลาดไปยังตลาด CLMV และนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมภาคอสังหาริมทรัพย์ และจากงบลงทุนของภาครัฐในปี 59 ซึ่งจะกระตุ้นภาคเอกชนในการลงทุน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ผู้ผลิตจำหน่ายวัสดุก่อสร้างโดยรวม และบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งทางบริษัทฯก็จะได้รับผลบวกโดยตรง

ส่วนผลประกอบการปี 58 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 354.17 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 432.70 ล้านบาท จำนวน 78.5 ล้านบาท มีขาดทุนสุทธิ 13.7 ล้านบาท เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ความต้องการในตลาดลดลง อีกทั้งมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง ส่งผลให้ยอดขายและความสามารถในการทำกำไรลดลงตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ