"เอเชีย เวลท์"ให้กรอบ SET Index สัปดาห์นี้ 1,376-1,394 จุด จับตาโอกาสสูงเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 23, 2016 12:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) สัปดาห์นี้ น่าจะสามารถเปิดเป็นบวกได้ตามตลาดภูมิภาค และตลาดหุ้น Wall street แต่อาจไปไม่ได้ไกล เพราะนักลงทุนจะยังคงมีความระมัดระวังในเรื่องการที่ Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นเช่นกัน ดังนั้น บล.เอเชีย เวลท์ มองทิศทางตลาดสัปดาห์นี้ในแบบระมัดระวัง โดยมองกรอบ SET Index 1,376-1,394 จุด

ปัจจัยที่กระทบกับตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ คือความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม มิ.ย.นี้ จากผลสำรวจใน Wall street ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งพุ่งสูงขึ้นเป็น 30% ประกอบกับตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง

และในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ครั้งที่สอง ของสหรัฐฯ หากดีขึ้นมากกว่าเดิมที่ 0.5% ก็จะเป็นตัวตอกย้ำความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้ และต้องจับตาสัญญาณจากสมาชิกของ Fed สาขาต่างๆ ที่จะทยอยออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมทั้งประธาน Fed นางเจเน็ท เยเลน ด้วย ซึ่งหากทิศทางเป็นเช่นนี้จะส่งผลกดดันตลาดหุ้น

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ประกาศตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ไตรมาส 1 ของไทย ออกมาอยู่ที่ 2.33 แสนล้านบาท ถือว่าดีมากทีเดียว เพราะฟื้นตัวกว่า 20% หากเทียบกับไตรมาส 4/58 และบวกขึ้นเกือบ 1% จากไตรมาส 1/58 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูง จึงถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ ทำให้มองว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนฯ ในปีนี้มีโอกาสเติบโตถึง 24%

สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ แนะนำหุ้นของ บมจ.เอสวีไอ (SVI) บริษัทมีแนวโน้มที่สดใสหลังได้ซื้อกิจการบริษัทยุโรป Siedel Elektronik ซึ่งเป็นบริษัท ODM (Original Design Manufacturer) ผู้ผลิตสินค้าตามรูปแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของตนเองและใส่แบรนด์ของผู้สั่งซื้อ การซื้อกิจการนี้ ทำให้ SVI เข้าถึงเทคโนโลยีและตลาดอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงของยุโรปด้วยฐานการผลิตในออสเตรีย สโลวาเกีย และฮังการี และฐานการตลาดในสแกนดิเนเวีย แม้การลงทุนอาจฉุดกำไรในตอนเริ่มต้น แต่อัตรากำไรจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการผลิตใหญ่ถึงระดับหนึ่งด้วยยอดขายที่เพิ่มเข้ามาราว 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ ก.พ. 59

นอกจากนี้ การแก้ปัญหาคอขวดการผลิตในประเทศซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/59 นี้น่าจะปลดล็อคกำลังผลิตของฐานการผลิตในไทย แม้อุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปจะอ่อนแอ แต่ความต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์ชั้นสูงที่ออกแบบเป็นพิเศษซึ่ง SVI มีความถนัดน่าจะยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะตามความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ โทรคมนาคม ดาวเทียม อาวุธ และการแพทย์

SVI วางแผนที่จะตั้งฐานการผลิตในกัมพูชาปีนี้ซึ่งน่าจะช่วยลดต้นทุนแรงงานได้และยังให้สิทธิพิเศษทางภาษี GSP จากการใช้กัมพูชาเป็นแหล่งส่งออกสู่ประเทศตะวันตก จากคาดการณ์เฉลี่ยของ Bloomberg กำไรปกติของ SVI น่าจะพุ่งขึ้น 54% ปีนี้และ 17% ใน 60 ปัจจุบันหุ้น SVI เทรดที่ P/E ratio 12 เท่า ซึ่งยังคงต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน (Undervalued)

ด้าน Technical รูปแบบราคา ของ SVI ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากการเกิดสัญญาณซื้อรายเดือน โดยรูปแบบราคาของ SVI ที่ผ่านมานั้นอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ปัจจุบัน ได้กลับมาเกิดสัญญาณซื้อรายวัน ครั้งใหม่แล้ว แต่คาดว่ายังต้องแกว่งตัวอีกสักพักเพื่อรอการกลับมาเกิดสัญญาณซื้อรายสัปดาห์ครั้งใหม่ ทั้งนี้ ราคาเป้าหมาย Bloomberg consensus อยู่ที่ 5.78 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ