DAII คาดกำไรสุทธิปีนี้มากกว่าปีก่อน แม้ปรับลดเป้ารายได้, เดินหน้าขยายไปเวียดนาม-พม่า-เขมร

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 8, 2016 16:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธวัช มีประเสริฐสกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไดอิ กรุ๊ป (DAII) คาดกำไรสุทธิปีนี้มากกว่าปีก่อนที่ 13 ล้านบาท แม้ว่าบริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงเหลือเติบโต 10% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 15% เนื่องจากสินค้าในหมวดวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มยอดขายจะปรับลดลง 10% จากปีก่อน หลังโครงการต่าง ๆ มีการชะลอออกไป ประกอบกับมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจบ้านสำเร็จรูปจะมีการเติบโตได้ราว 30% จากปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) ราว 150-180 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 80% และบริษัทคาดว่ารายได้จากการจำหน่ายบ้านสำเร็จรูปจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 500 ล้านบาทภายในปี 60

ขณะที่ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ขายที่ดินจำนวน 2 แปลง คือ ที่ดิน 200 ตารางวาใน ต.อนุสาวรีย์ (กูบแดง) อ.บางเขน กทม.ในราคา 10.5 ล้านบาท และที่ดิน 5 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างใน ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ในราคา 16.5 ล้านบาท ซึ่งจะมีกำไรจากการขายที่ดินดังกล่าวราว 3-4 ล้านบาทที่จะบันทึกเข้ามาในช่วงไตรมาส 3/59

"แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/59 ผลประกอบการยังคงทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 1/59 เพราะสภาพเศรษฐกิจในประเทศก็ยังไม่ค่อยดี และโชว์รูมจะเปิดครบในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเชื่อว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกซึ่งเราทำการตลาดในเรื่องของบ้านสำเร็จรูปผ่านโชว์รูม และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเชื่อว่าจะไปเห็นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เราคาดว่าจะเห็นผลงานที่ชัดเจนได้ภายในไตรมาส 4 แน่นอน"นายธวัชกล่าว

นายธวัช กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการสร้างโรงงานสตีลนาโนหรือโครงสร้างเหล็กนาโนในประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลการลงทุน คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทจะขอดูแนวโน้มหลังเปิดโชว์รูมทั้ง 3 แห่งก่อนว่าจะเป็นอย่างไร หากได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บริษัทก็จะตัดสินใจก่อสร้างโรงงานทันที เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 30 ล้านบาทและรองรับงานได้ถึง 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังเตรียมร่วมมือกับพันธมิตรเปิดสาขาในประเทศเวียดนาม เพื่อขายวัสดุก่อสร้างผ่านระบบออนไลน์ พร้อมทั้งเป็นโชว์รูมเพื่อขายบ้านสำเร็จรูปด้วย นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนเพื่อขยายการลงทุนไปในประเทศพม่าและกัมพูชาเพิ่มเติม โดยบริษัทฯคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในปี 60-61 เบื้องต้นบริษัทต้องการถือหุ้นในสัดส่วน 50:50


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ